การดูดไขมันจะมีความเจ็บปวดจากบริเวณแผลที่ทำการดูดไขมัน ซึ่งแต่ละคนจะมีความเจ็บมากหรือน้อยแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาช่วยระงับความเจ็บที่จะเกิดขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ ยาชาและยาสลบ สำหรับในปัจจุบันการใช้ยาชาถือเป็นที่นิยมมากกว่าการใช้ยาสลบ เนื่องจากมีความปลอดภัยมากกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยาชาหรือยาสลบ มีผลดีและผลเสียอย่างไร รวมถึงผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นจากการใช้ยาทั้งสองประเภทในการดูดไขมัน เรามาดูกันดีกว่าว่าความแตกต่าง และผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง
การวางยาสลบ
วิธีนี้หลายคนค่อนข้างกลัวและกังวล เนื่องจากคนไข้จะหมดสติหรือบางคนอาจจะอยู่ในอาการสะลึมสะลือ หลังจากการใช้ยาสลบคนไข้จะไม่รู้สึกตัวและไม่รู้สึกเจ็บในจุดที่ทำการดูดไขมัน ถึงแม้จะมีการวางยาสลบแต่ก็ยังต้องทำการใช้ยาชาร่วมด้วยเพื่อให้บริเวณที่ดูดไขมันไม่เจ็บมาก แต่ปริมาณของยาชาจะน้อยกว่าวิธีที่ใช้ยาชาเฉพาะจุด
ข้อดีของการใช้วิธีวางยาสลบ
คนไข้จะไม่รู้สึกตัว ไม่ต้องรับรู้ว่าแพทย์ทำอะไรบ้างภายในห้องผ่าตัดและการทำงานของแพทย์ก็จะสะดวกและเร็วขึ้นด้วย คนไข้ที่มีความกังวลว่าจะเจ็บเหมาะที่จะใช้การวางยาสลบ ส่วนข้อควรระวังของการใช้วิธีการวางยาสลบ คืออาจเกิดภาวะแทรกซ้อนและมีผลข้างเคียงขึ้นได้
ผลข้างเคียงจากการใช้ยาสลบ
ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย ซึ่งอาการจะมากหรือน้อยจะแตกต่างกันออกไป
- อาจมีอาการอ่อนเพลีย
- หนาวสั่น
- เวียนศีรษะ หน้ามืด
- คลื่นไส้ อาเจียน
- มึนงง หรือมีอาการเสียความทรงจำชั่วคราว
- หลังยาสลบหมดฤทธิ์ คนไข้จะมีอาการเจ็บจากแผลที่ผ่าตัด
- มีอาการปัสสาวะยากช่วง 12 ชั่วโมงแรก
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการวางยาสลบ
เกิดขึ้นค่อนข้างน้อยและมักจะไม่รุนแรงนักแต่อย่างไรก็ตามจะต้องขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของบุคคลนั้นด้วย
- คนไข้อาจรู้สึกตัวระหว่างทำการผ่าตัด
- มีภาวะสับสนทางจิตใจชั่วคราว
- มีอาการแพ้ยาสลบรุนแรงและเฉียบพลันแต่เกิดขึ้นค่อนข้างน้อย ซึ่งอาการดังกล่าวจะมีอาการความดันต่ำ ตัวบวม หายใจลำบาก เป็นต้น
- ในบางครั้งอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตแต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นน้อยมากแทบจะไม่มีแล้วในปัจจุบัน นอกจากนั้นอาจมีอาการปอดติดเชื้อ หัวใจขาดเลือดอย่างเฉียบพลัน เลือดเป็นกรด เป็นต้น
สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ไม่ควรใช้วิธีวางยาสลบ เพราะจะเกิดความเสี่ยงคือ ผู้ที่มีโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต โรคอ้วน โรคความดันสูง ผู้ที่หยุดหายใจในขณะที่หลับ คนที่สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาสลบ เป็นต้น
การใช้ยาชา
สำหรับการดูดไขมันนั้น ยาชาจะช่วยระงับความเจ็บปวดและมีความปลอดภัยมากกว่าการใช้ยาสลบ เนื่องจากคนไข้จะรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลาและสามารถพูดคุยกับแพทย์ในขณะที่กำลังผ่าตัดได้ ปริมาณของยาชาจะขึ้นกับน้ำหนักตัวของคนไข้ ดังนั้นต้องมีแพทย์เป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม ข้อดีของการใช้ยาชาคือ สามารถเลือกฉีดได้เฉพาะที่ คนไข้จะรู้สึกตัวอยู่ตลอด และสามารถพูดคุยตอบโต้กับแพทย์ได้ ไม่ต้องงดน้ำหรืออาหารก่อนที่จะมาดูดไขมัน
ผลข้างเคียงของการใช้ยาชา
- หน้ามืด เวียนศีรษะ
- อาเจียนและมีอาการคลื่นไส้
- มองเห็นไม่ชัดเจน
- ปวดในจุดที่ฉีดยาชา
- มีอาการแพ้ยาชา หน้าบวม ตัวบวม หายใจติดขัด หากรุนแรงอาจมีอาการหัวใจล้มเหลวแต่พบได้น้อยมาก ๆ
ภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยาชา
- ความดันต่ำ
- เวียนหัว
- ง่วงซึม
- หูอื้อ
- มีอาการชา พูดไม่ชัด
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะด้วยวิธีการใช้ยาสลบหรือการใช้ยาชาก็ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด และด้วยในปัจจุบันการดูดไขมันมีการพัฒนามากขึ้น ความเจ็บปวดหรือบอบช้ำจากการดูดไขมันลดลงมาก ดังนั้นใช้เพียงแค่ยาชาเพื่อระงับความเจ็บก็เพียงพอแล้ว แต่หากคนไข้ยังมีอาการกังวลสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างหมอลูกหนูได้เพราะมีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง และพร้อมที่จะให้ข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เฉพาะบุคคลอย่างใกล้ชิด
ทำไมต้องดูดไขมันที่คุณหมอลูกหนู
การดูดไขมันที่คุณหมอลูกหนู ด้วยเทคนิคพิเศษสูตรลับเฉพาะตัว โดยคุณหมอจะทำการวิเคราะห์สรีระ และปัญหาของแต่ละเคสแบบ case by case ออกแบบรูปร่างเฉพาะบุคคล เพื่อหน้าท้องที่แบนราบ ตึงกระชับ เรียบเนียน หลังจากที่ดูดไขมันออกไปแล้ว
สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงอีกหนึ่งสิ่ง คือ หลังจากดูดไขมันแล้ว บริเวณที่ทำการดูดไขมันไปจะต้องไม่ย้วย และไม่หย่อนยาน คุณหมอจึงเลือกใช้เทคนิคผสมผสานรวมหลายเครื่องมือในการดูดไขมัน ทั้ง Vaser Smooth 2.2, Body Tite, Microaire PAL, J Plasma และ FAT Focus ซึ่งเครื่องมือแต่ละชนิดถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ และประโยชน์ที่แตกต่างกัน คุณหมอจึงเลือกใช้เครื่องมือ และอุปกรณ์หลายชนิดร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด เครื่องมือที่คุณหมอเลือกใช้มั่นใจได้เลยค่ะว่าเป็นเครื่องมือดูดไขมันรุ่นล่าสุด และทันสมัย มีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับระดับสากล อีกเทคนิคของคุณหมอลูกหนูที่โด่งดัง และเป็นที่รู้จักกันดี คือ แผลเล็ก เจ็บน้อย ชิวเวอร์ และไม่ต้องพักฟื้น
- อาจมีอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดหัวหรือมีอาการอ่อนเพลียร่วมด้วย
แผลเล็ก
ใช้เทคนิคแผลเล็กเพียง 0.2 – 0.5 มิลลิเมตร และซ่อนแผลในบริเวณที่มองเห็นได้ยาก ตรงบริเวณขอบบิกินี่หรือตรงขอบกางเกงชั้นใน
เจ็บน้อย
ใช้เทคนิคความนุ่มนวล ในทุกกระบวนการ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของใส่ยาชา มีการใส่ยาชาแบบทั่วพื้นที่หน้าท้องที่จะทำการดูดไขมัน และเครื่องมือที่ใช้มีความอ่อนโยนต่อเนื้อเยื่อมาก ทำให้คนไข้รู้สึกสบาย ไม่มีความรู้สึกเจ็บ ขณะทำการดูดไขมันหน้าท้อง เหมาะกับคนที่กลัวเจ็บ และไม่ต้องการพักฟื้นนาน
ชิวเวอร์
ขณะทำการดูดไขมันหน้าท้อง คนไข้สามารถพูดคุย ซักถามคุณหมอ ได้ตลอดเวลา ด้วยการดูแลแบบใส่ใจ เป็นกันเอง ของคุรหมอลูกหนู และทีมงานทุกๆ คน จึงทำให้คนไข้ที่มาดูดไขมันต่างประทับใจ และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ดูดไขมันกับคุณหมอลูกหนูชิวเวอร์ ไม่เหมือนกับการทำดูดไขมัน
ไม่ต้องพักฟื้น
หลังทำการดูดไขมันหน้าท้องกับคุณหมอลูกหนู คนไข้ไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้เลย วันรุ่งขึ้นยังสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ
คุณหมอลูกหนู ตัวจริงเรื่องการ ” ดูดไขมัน “
ประสบการณ์ยาวนานกว่า 14 ปี ดูดไขมันด้วยเทคนิคพิเศษเฉพาะตัว แผลเล็ก เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น
ยาชาหรือยาสลบ ควรเลือกแบบไหนดี?
ปรึกษาคุณหมอลูกหนู เพื่อทำให้คุณหุ่นสวย เห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการดูดไขมัน
𝐂𝐎𝐍𝐓𝐀𝐂𝐓 𝐔S
𝐋𝐢𝐧𝐞 : line.me/ti/p/@marvelousclinic
𝐓𝐞𝐥 : 081-533-0444
𝐈𝐧𝐛𝐨𝐱 : http://m.me/marvelousclinic
𝐈𝐆 : www.instagram.com/marvelousclinic
𝐘𝐨𝐮𝐭𝐮𝐛𝐞 : www.youtube.com/c/DoctorLooknuu