ดูดไขมัน หน้าท้อง

ดูดไขมันหน้าท้อง หมอลูกหนู

ดูดไขมัน หน้าท้อง เป็นบริเวณที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโรงพยาบาลเคเอ็มบี คุณหมอลูกหนู ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้องของคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชายที่มีหน้าท้องใหญ่ หน้าท้องเล็ก หรือจะเป็นหน้าท้องของคุณแม่หลังคลอด ล้วนมีไขมันสะสมเป็นปัญหากวนใจกันทั้งนั้น

เรื่องของไขมันสะสมที่หน้าท้อง หรือพุงย้วย พุงยื่น พุงป่อง พุงกลม ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ขึ้นชื่อว่า มีพุง ฟังแล้วก็กลุ้มใจ และเป็นปัญหาหนักใจของหลายๆ คน ปัญหาการมีพุง เกิดได้ทั้งกับคนอ้วนและคนผอม ลดมาหลายวิธีทั้งคุมอาหาร ออกกำลังกาย ก็ยังไม่สามารถกำจัดพุงออกไปได้สักที

ดูดไขมัน-หมอลูกหนู
ดูดไขมัน-หมอลูกหนู

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนดูดไขมัน หน้าท้อง

อ้วนลงพุง พุงป่อง พุงยื่น พุงย้อย ซึ่งพุงที่ยื่นออกมานั้น เกิดจากไขมันที่ไปสะสมใต้พุง และใต้อวัยวะภายในช่องท้อง เมื่อมีจำนวนมาก และสะสมไว้เป็นเวลานาน ไขมันจะดันหน้าท้องของเราออกมา จนเห็นเป็นพุงยื่นนั่นเอง
ดูดไขมันหน้าท้อง หมอลูกหนู
ดูดไขมันหน้าท้อง หมอลูกหนู
ดูดไขมันหน้าท้อง หมอลูกหนู

ไขมันแบบไหน? ที่ดูดไขมันหน้าท้องออกได้

โรงพยาบาลเคเอ็มบี คุณหมอลูกหนู มีนวัตกรรมในการตรวจเช็คไขมันแบบละเอียดว่าเรามีไขมันสะสมปริมาณมากน้อยแค่ไหน เป็นไขมันชนิดใด และสะสมส่ว่นไหนมากที่สุด และหน้าท้อง ของเรามี 2 ชั้นด้วยกัน คือ ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง และ ไขมันในช่องท้อง

ดูดไขมันหน้าท้อง หมอลูกหนู

1. ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat)

เป็นไขมันที่พบได้ที่ชั้นใต้ผิวหนัง เมื่อสะสมเป็นจำนวนมากจะทำให้พุงยื่น พุงป่อง ออกมา ความหนาของไขมันชั้นนี้ สามารถวัดได้จากเครื่องหนีบวัดไขมันหรือวัดเบื้องต้นด้วยตัวเราเองโดยใช้มือบีบหยิบขึ้นมาได้ ซึ่งไขมันชั้นใต้ผิวหนังนี่เองที่สามารถทำการ ดูดไขมัน ออกได้

ดูดไขมันหน้าท้อง หมอลูกหนู
ดูดไขมันหน้าท้อง หมอลูกหนู

2. ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat)

เป็นไขมันที่สะสมอยู่ลึกกว่าชั้นใต้ผิวหนัง และอยู่ใต้ชั้นกล้ามเนื้อหน้าท้องลงไปอีก โดยอยู่รอบอวัยวะภายในร่างกาย เช่น กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ตับ เป็นต้น หากไขมันในชั้นนี้สะสมเยอะ จะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ซึ่งไขมันในช่องท้องชั้นนี้ไม่สามารถดูดไขมันออกได้ หากจะทำการลดไขมันในชั้นนี้ ต้องลดน้ำหนัก คุมอาหาร และออกกำลังกาย

ดูดไขมันหน้าท้อง หมอลูกหนู
ดูดไขมันหน้าท้อง หมอลูกหนู
ดูดไขมัน-ลดน้ำหนัก-หมอลูกหนู-KMB

คุณแม่หลังคลอด ดูดไขมัน หน้าท้อง ได้ไหม?

ปัญหาใหญ่ของคุณแม่หลังคลอด เป็นปัญหายอดฮิตประจำ โรงพยาบาลเคเอ็มบี คุณหมอลูกหนู คือ พุงป่อง หน้าท้องไม่ยุบ หรือหน้าท้องใหญ่ขึ้นหลังคลอด สำหรับคุณแม่บางคนคลอดบุตรแล้วไม่นานหน้าท้องก็ยุบลง แต่บางคนทั้งควบคุมน้ำหนัก ทั้งออกกำลังกาย ทำยังไงหน้าท้องก็ไม่เล็กลงสักที! อีกทั้งยังมีปัญหากวนใจตามมาอีก ไม่ว่าจะเป็น น้ำหนักไม่ลด ผิวหนังย้วย รอยแตกลาย ทำให้มีคุณแม่หลายคน เข้ามาสอบถามที่ โรงพยาบาลเคเอ็มบี คุณหมอลูกหนู มากมายว่า “คุณหมอคะ เพิ่งคลอดน้องมา หน้าท้องใหญ่มากเลยค่ะ ผ่าคลอดสามารถดูดไขมันได้ไหมคะ?” “มีหน้าท้องหลังคลอด ดูดไขมันหน้าท้องช่วยได้ไหม?” หรืออื่นๆ อีกมากมาย

ดูดไขมันหน้าท้อง หมอลูกหนู

โดยปกติแล้ว คุณแม่หลังคลอดจะมีหน้าท้องที่ต้องใช้ระยะเวลาในการกลับสู่สภาพเดิมไม่เท่ากัน บางคนใช้เวลา 2-6 เดือน หรือบางคนอาจจะนานกว่านั้น และคุณแม่บางคนหลังคลอดหน้าท้องก็ไม่ยุบเลย แม้จะออกกำลังกาย หรือควบคุมอาหารแล้วก็ตาม แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ โรงพยาบาลเคเอ็มบี คุณหมอลูกหนู พร้อมดูแลทุกปัญหาคุณแม่หลังคลอด

ดังนั้น คุณแม่หลังคลอด ที่อยากดูดไขมันหน้าท้อง สามารถทำได้ค่ะ แต่ต้องทำหลังจากที่คุณแม่มีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ และหยุดให้นมลูกแล้วนะคะ ซึ่งการดูดไขมันจะทำให้สัดส่วนเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ต้องใช้เวลานานเหมือนการออกกำลังกาย แต่ทั้งนี้หมอแนะนำให้คุณแม่ลองออกกำลังกาย และควบคุมน้ำหนักดูก่อนนะคะ หากหน้าท้องหลังคลอดไม่เล็กลง สามารถเข้ามาปรึกษาคุณหมอได้ที่ โรงพยาบาลเคเอ็มบี คุณหมอลูกหนู เพื่อให้คุณหมอทำการออกแบบโปรแกรมให้เหมาะสมกับปัญหาของคุณแม่แต่ละคนได้เลยค่ะ

ดูดไขมันหน้าท้อง หมอลูกหนู

ดูดไขมัน หน้าท้อง กับ คุณหมอลูกหนู

การดูดไขมันหน้าท้อง เทคนิคของ โรงพยาบาลเคเอ็มบี คุณหมอลูกหนู โดยคุณหมอจะทำการวิเคราะห์สรีระ และปัญหาของแต่ละเคส แบบ 1 by 1 ออกแบบรูปร่างเฉพาะบุคคล เพื่อตอบโจทย์การรักษาอย่างตรงจุด

เนื่องจากหน้าท้องเป็นบริเวณที่มีพื้นที่กว้าง และมีไขมันปริมาณมาก การดูดไขมันออกในปริมาณที่มาก สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงอีกหนึ่งสิ่ง คือ หลังจากดูดไขมันหน้าท้อง หน้าท้องของคนไข้จะต้องไม่ย้วย และไม่หย่อนยาน โรงพยาบาลเคเอ็มบี คุณหมอลูกหนู จึงเลือกใช้เทคนิคผสมผสานรวมหลายเครื่องมือในการดูดไขมันหน้าท้อง ทั้ง Vaser Smooth 2.2, Body Tite, Microaire PAL และ FAT Focus ซึ่งเครื่องมือแต่ละชนิดถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ และประโยชน์ที่แตกต่างกัน โรงพยาบาลเคเอ็มบี คุณหมอลูกหนู จึงเลือกใช้เครื่องมือ และอุปกรณ์หลายชนิดร่วมกัน เพื่อตอบโจทย์ได้อย่างตรงจุดทุกปัญหา

ดูดไขมันหน้าท้อง หมอลูกหนู

ดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย คืออะไร? ผู้ชายดูดไขมันได้ด้วยเหรอ??

หลายคนอาจจะคิดว่าการดูดไขมันเหมาะแค่กับผู้หญิงเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วไม่ว่าเพศไหน ก็สามารถที่จะดูแลตัวเองให้ดูดีได้ เพราะไขมันสะสมได้แบบไม่เลือกเพศ ไม่เลือกบริเวณ โรงพยาบาลเคเอ็มบี คุณหมอลูกหนู พร้อมดูแลทุกปัญหาของคุณ เพราะฉะนั้นการดูดไขมัน อาจเป็นทางเลือกนึง ที่เราอาจจยังไม่คุ้นเคย เมื่อก่อนเราอาจมองว่า ผู้ชายมักเลือกลดหุ่นด้วยการออกกำลังกายเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วไขมันบางส่วนนั้นก็เป็นไขมันดื้อด้าน ลดยาก ดังนั้น ดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย

ดูดไขมัน หน้าท้อง ผู้ชาย

โดยปกติแล้วเวลาผู้หญิงมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น มักจะมีไขมันสะสมตามบริเวณสะโพก ต้นแขน ต้นขา และช่วงเอว ต่างจากผู้ชายที่น้ำหนักตัวเพิ่ม ไขมันมักสะสมอยู่ที่บริเวณหน้าท้องเป็นหลัก การที่มีพุงป่อง พุงยื่น ท้องใหญ่ ทำให้เสียบุคลิกภาพที่ดีไป เนื่องจากไขมันที่สะสมบริเวณหน้าท้องที่เพิ่มขึ้น ทำให้หลังงอ เวลานั่งหรือยืนก็จะดูไม่สง่า การเลือกซื้อเสื้อผ้าก็ลำบาก อีกทั้งการแฮงเอาต์ช่วงเย็นที่จำเป็นจะต้องดื่มเบียร์ ความเครียดจากงาน และยังไม่มีเวลาออกกำลังกายอีกด้วย

การ ดูดไขมันหน้าท้องคุณผู้ชาย ของคุณหมอลูกหนู เป็นเทคนิคที่ออกแบบให้เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล เพื่อให้ตอบโจทย์อย่างตรงจุดทุกปัญหาไขมันส่วนเกิน

ดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย หมอลูกหนู
ดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย หมอลูกหนู

การดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย หรือการดูดไขมันผู้ชาย (Liposuction For Men) นับเป็นการกำจัดไขมันเฉพาะส่วน เน้นการปรับสัดส่วนสรีระให้สมส่วนขึ้น ตอบโจทย์ให้ตรงจุด โดยการดูดไขมันผู้ชาย โรงพยาบาลเคเอ็มบี คุณหมอลูกหนู จะมีทีมแพทย์คอยให้คำปรึกษาโดยเฉพาะ ต้องมีความเข้าใจสรีระของผู้ชาย เพื่อการออกแบบสรีระให้สวยงาม สมส่วน โดยให้เทคนิคดูดไขมัน และอุปกรณ์ในการดูดไขมันเฉพาะขึ้นอยู่กับปัญหาแต่ละบุคคล เพื่อที่จะสามารถอวดหุ่นแมน เท่ ได้อย่างใจ

มีรอยแผลผ่าตัดบริเวณหน้าท้อง ดูดไขมัน หน้าท้อง ได้หรือไม่?

การดูดไขมันหน้าท้อง ถือว่าเป็นบริเวณที่มีความแตกต่างจากบริเวณอื่นๆ นอกจากหน้าท้องจะมีชั้นไขมันถึง 2 ชั้นแล้ว ที่คุณหมอจะต้องทำการประเมินว่าสามารถดูดไขมันออกได้มากน้อยเพียงใด โรงพยาบาลเคเอ็มบี คุณหมอลูกหนู : คุณหมอลูกหนู มีทีมแพทย์ที่พร้อมดูแลทุกปัญหา อย่างใกล้ชิด เพื่อตอบโจทย์ทุกปัญหา

แผลหลังดูดไขมัน-KMB-หมอลูกหนู

รอยแผลผ่าตัดที่หน้าท้อง ไม่ว่าจะเป็นแผลผ่าคลอด ทั้งแบบบิกินี่หรือแบบตรงกลางท้อง หรือจะเป็นแผลผ่าตัดไส้ติ่ง แผลผ่านิ่ว ซึ่งรอยแผลผ่าตัดเหล่านี้ต้องทำการผ่าตัดมาเกิน 6 เดือน ถึงจะสามารถทำการดูดไขมันหน้าท้องได้ คนไข้ที่มีรอยแผลผ่าตัดที่หน้าท้องต้องเข้ามาปรึกษาคุณหมอที่ โรงพยาบาลเคเอ็มบี คุณหมอลูกหนู ก่อนทำการดูดไขมันหน้าท้อง เพื่อประเมินลักษณะของแผล และดูว่าแผลเข้าที่หลังการผ่าตัดแล้วหรือยัง และวางแผนร่วมกับคุณหมอถึงแนวทางการรักษา และเทคนิคที่ใช้ เพราะการดูดไขมันหน้าท้องที่มีรอยแผลผ่าตัด จะแตกต่างจากเคสปกติที่ไม่มีรอยแผลผ่าตัด อีกทั้งยังต้องใช้ความชำนาญ ใช้เทคนิค และเลือกอุปกรณ์พิเศษ ให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่มีรอยแผลผ่าตัด

ดูดไขมันหน้าท้อง หมอลูกหนู

ดูดไขมัน หน้าท้อง หลังทำท้องจะย้วยหรือไม่?

เนื่องจากบริเวณหน้าท้อง เป็นบริเวณที่มีพื้นที่กว้าง และมีการสะสมของไขมันปริมาณมาก เรียกได้ว่า ทั้งพื้นที่กว้าง และมีชั้นไขมันที่หนามาก ทำให้หลายคนกังวลว่า หลังการดูดไขมันหน้าท้อง เมื่อชั้นไขมันออกไปในปริมาณที่เยอะ และออกไปได้แบบรวดเร็ว อาจจะทำให้เกิดความหย่อนคล้อย ย้วย ไม่ตึงกระชับได้ แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ เรามีนวัตกรรมที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ปัญหาได้อย่างตรงจุด ทั้งในเรื่องของความ ไม่กระชับ และหย่อนคล้อย

คุณแม่หลังคลอด-หมอลูกหนู

ดูดไขมันหน้าท้อง ใช้เวลารักษานานหรือไม่?

ระยะเวลาในการดูดไขมันหน้าท้อง ที่ โรงพยาบาลเคเอ็มบี คุณหมอลูกหนู จะอยู่ที่ประมาณ 1-2 ชั่วโมง แต่ละเคสจะแตกต่างกันไปขึ้นกับ

1. ความกว้างของพื้นที่หน้าท้อง

2. ความหนาของชั้นไขมันสะสม

3. ความยากง่ายของแต่ละเคส หากมีรอยแผลผ่าตัดที่หน้าท้อง จะต้องใช้เวลาในการทำมากกว่า

4. หากมีความหย่อนคล้อยร่วมด้วย จะใช้เวลาในการทำมากกว่าการดูดไขมันเพียงอย่างเดียว

ใครที่เหมาะ กับการดูดไขมันหน้าท้อง?

  • ผู้ที่มีไขมันบริเวณหน้าท้อง ไม่สามารถลดได้ด้วยการคุมอาหาร หรือออกกำลังกาย
  • คุณแม่หลังคลอดที่ลดเองไม่ได้
  • คุณผู้ผญิงที่ต้องการดูดไขมันพร้อมกับสร้าง Sexy Line
  • คุณผู้ชายที่ต้องการดูดไขมันหน้าท้อง พร้อมกับสร้าง Six Pack

“ก่อนทำ” ดูดไขมัน หน้าท้อง เตรียมตัวแบบไหน?

ก่อนดูดไขมัน-ดูดไขมัน-หมอลูกหนู
  • งด ทานยา หรืออาหารเสริมบางชนิด

งดทานยาบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน ยาละลายลิ่มเลือด ยารักษาอาการซึมเศร้า ยาแก้ปวดบางชนิด รวมไปถึงอาหารเสริมที่มีผลด้านการแข็งตัวของเลือดอย่างน้อย 2 สัปดาห์

  • งด สูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์

อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะการสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนมาดูดไขมัน จะทำให้แผลหายช้า แผลไม่สมานติดกัน และเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรืออักเสบได้

  • เตรียม ความพร้อมของร่างกาย

ต้องมีสุขภาพแข็งแรง ห้ามอดอาหาร และห้ามลดน้ำหนักอย่างน้อย 2 สัปดาห์ และต้องไม่เป็นโรคที่ต้องห้ามในการดูดไขมัน

  • แจ้ง แพทย์ถ้ามีโรคประจำตัว และยาที่ใช้ประจำ

การแจ้งโรคประจำตัว และยาที่ใช้อยู่เป็นประจำก่อนเข้ารับการดูดไขมัน

  • เตรียม ชุดกระชับสำหรับดูดไขมัน

ใส่ชุดกระชับทันทีหลังดูดไขมัน จะทำให้ชั้นผิวหนัง และกล้ามเนื้อกระชับเข้ารูปได้เร็วขึ้น และยังช่วยลดอาการบวมช้ำ

  • ควร มีผู้ติดตาม

เพื่อความสะดวก และปลอดภัย เลี่ยงการขับรถด้วยตัวเอง

  • หลีกเลี่ยง การสวมเครื่องประดับ

ไม่ควรสวมใส่เครื่องประดับที่เป็นโลหะก่อนทำการดูดไขมัน

  • ศึกษา เทคนิคการดูดไขมันจากแพทย์ที่จะทำการดูดไขมัน

ควรศึกษา และสอบถามข้อข้องใจจากแพทย์ที่จะทำการดูดไขมันให้เรียบร้อยก่อนทำการดูดไขมัน

  • ควร สวมใส่ชุดที่ใส่สบายไม่รัดรูป

ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ใส่สบายๆ ไม่รัดรูปจนเกินไป

  • เตรียม ผ้ารองเปื้อน

เตรียมผ้ารองเปื้อนไว้สำหรับกันเปื้อนในรถหลังการดูดไขมัน

ดูดไขมัน หน้าท้อง เจ็บไหม?

ปัจจุบันเทคโนโลยีที่ใช้ในการดูดไขมันถูกพัฒนาเพื่อให้คนไข้รู้สึกเจ็บระหว่างทำการดูดไขมันน้อยลง รวมทั้งมีการใช้เทคนิคพิเศษในการใช้ยาชาร่วมด้วยเป็นทางเลือกในการเลือกใช้ยาสลบ เพื่อลดโอกาสในการได้รับผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ อีกทั้งนวัตกรรมและเครื่องมือต่างๆ ก็อำนวยความสะดวกให้กับแพทย์มากขึ้นด้วย ในสมัยก่อนนั้นวิธีการดูดไขมันแพทย์อาจจะต้องใช้แรงเพื่อสลายไขมันให้แตกตัว  ดังนั้นวิธีการ ดูดไขมันหน้าท้อง ในสมัยก่อนจึงมีโอกาสมากที่จะโดนเส้นเลือด เส้นประสาท หรือเนื้อเยื่อข้างเคียงได้

คุณหมอลูกหนูได้คัดสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโนโลยี รวมถึงเทคนิคเฉพาะ ที่ทำให้คนไข้ผ่อนคลาย รู้สึกสบาย ระหว่างทำการดูดไขมัน โดยปกติแล้วการดูดไขมันหน้าท้องอาจจะรู้สึกเจ็บบ้างเล็กน้อยระหว่างที่แพทย์ทำการเติมยาชาก่อนดูดไขมันเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถพูดคุยกับคุณหมอได้ตลอดระยะเวลาในการดูดไขมันอีกด้วย เมื่อไขมันเหลือปริมาณน้อยลงแล้ว เหลือแต่ชั้นผิวหนังกับกล้ามเนื้อ คนไข้อาจจะรู้สึกแปลบๆ ได้บ้าง สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วยังกังวล กลัวเจ็บ แต่ยังต้องการดูดไขมัน คุณหมอมีตัวช่วยในการลดความกังวลด้านความเจ็บที่หลากหลาย สามารถเข้ามาปรึกษาคุณหมอก่อนได้นะคะ

ดูดไขมัน หมอลูกหนู

ดูดไขมัน หน้าท้อง ต้องใช้ยาสลบไหม?

การ ดูดไขมันหน้าท้อง มีวิธีระงับความเจ็บปวดในระหว่างการดูดไขมันคนไข้สามารถทำได้โดยการ วางยาสลบ และการใช้ยาชา ทั้งสองวิธีมีผลข้างเคียง และภาวะแทรกซ้อนที่แตกต่างกันไป โดยการเลือกวิธีการไหนนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้เป็นหลัก แต่ก็ยังต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนการตัดสินใจดูดไขมัน ซึ่งในปัจจุบันการ ดูดไขมันหน้าท้อง จะนิยมเลือกใช้ “ยาชา” เฉพาะที่มากกว่าการวางยาสลบ เนื่องจากมีภาวะแทรกซ้อนและผลข้างเคียงน้อยกว่า

ยาชา-ยาสลบ-ดูดไขมัน-KMB

ยาชา คืออะไร

ยาชาที่เราใช้ในการดูดไขมัน คือยาชาเฉพาะที่ หรือ Local Anesthetics เป็นยาที่ใช้ เพื่อระงับความรู้สึก หรือระงับความเจ็บปวด โดยจะใช้เวลาในการออกฤทธิ์ประมาณ 2-3 นาที ซึ่งคนไข้รู้สึกตัวอยู่ตลอดระหว่างทำการดูดไขมัน สามารถพูดคุยกับแพทย์ได้ระหว่างการดูดไขมัน แต่จะไม่รู้สึกเจ็บ แต่จะรับรู้ได้ถึงแรงกด และการเคลื่อนไหวในบริเวณดังกล่าวได้

ข้อดี ของการใช้ยาชาในการดูดไขมันหน้าท้อง

  • คนไข้รู้สึกตัวตื่นอยู่ตลอดเวลา
  • คนไข้สามารถโต้ตอบกับแพทย์ได้ คนไข้ไม่ต้องอยู่ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น
  • ไม่ต้องงดน้ำ งดอาหาร ก่อนการดูดไขมัน

ผลข้างเคียงจากการ ใช้ยาชา ในการดูดไขมันหน้าท้อง

  • อาจเกิดรอยช้ำ หรือเลือดออกเล็กน้อย ในบริเวณที่ถูกฉีดยาชา
  • รู้สึกปวดตึงบริเวณที่ทำการฉีดยาชา
  • เมื่อยาชาหมดฤทธิ์ คนไข้จะรู้สึกเจ็บแปลบๆ บริเวณหน้าท้องที่ถูกดูดไขมันออกไป
  • อาจมีอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดหัวหรือมีอาการอ่อนเพลียร่วมด้วย

ยาสลบ คืออะไร

การวางยาสลบ (General Anaesthesia) เป็นการระงับความรู้สึกทั่วทั้งร่างกาย โดย วิสัญญีแพทย์ จะเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้ยาสลบแก่คนไข้ประจำห้องผ่าตัด ซึ่งจะทำให้คนไข้หมดสติ ไม่รู้สึกตัวระหว่างดูดไขมัน เพื่อให้คนไข้ลดความกังวล และไม่ต้องรู้สึกเจ็บระหว่างดูดไขมัน นอกจากนี้ยังช่วยลดระยะเวลาในการดูดไขมันลงได้อีกด้วย เพราะเมื่อคนไข้ไม่รู้สึกเจ็บ แพทย์ก็จะดูดไขมันได้สะดวกมากขึ้น ตลอดระยะเวลาในการดูดไขมัน

ผลข้างเคียงจากการ วางยาสลบ ในการดูดไขมันหน้าท้อง

  • อาการเจ็บคอหรือเสียงแหบ เป็นผลโดยตรงจากการสอดใส่ท่อช่วยหายใจผ่านเข้าไปในหลอดลม
  • อาการคลื่นไส้ อาเจียน ในช่วงพักฟื้นหลังการผ่าตัด เป็นผลโดยตรงจากการดมยาสลบ
  • ผู้ป่วยต้องงดน้ำงดอาหารเพื่อวางยาสลบ โดยคนไข้จะต้องงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนได้รับการวางยาสลบ
  • ยาสลบหมดฤทธิ์ และเมื่อคนไข้รู้สึกตัวจะมีความรู้สึกเจ็บปวดจากการผ่าตัด
  • ผู้ที่กำลังใช้ยาแอสไพริน จะส่งผลให้มีภาวะเลือดออกเพิ่มขึ้นได้

จะเห็นได้ว่าผลข้างเคียงจากการใช้ยาชานั้นมี น้อยกว่า การวางยาสลบ ทำให้ในปัจจุบันการใช้ยาชาเฉพาะจุดได้รับความนิยมมากกว่า เพราะคนไข้สามารถกลับบ้านได้เลยหลังจากการดูดไขมัน คนไข้รู้สึกตัว มีสติตลอดเวลา และไม่มีอาการมึนงง  ดังนั้นการดูดไขมันหน้าท้อง จึงไม่จำเป็นต้องเลือกการใช้ยาสลบ เพราะยาชาเฉพาะที่ และเทคนิคพิเศษของคุณหมอลูกหนู ก็เพียงพอสำหรับการดูดไขมันหน้าท้องแล้วค่ะ

ดูดไขมัน-หมอลูกหนู

ดูดไขมัน หน้าท้อง มีขั้นตอนยังไง?

1. ต้องเข้ามาปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการประเมินก่อนดูดไขมันหน้าท้องนะคะ

2. หลังจากทำการประเมินเรียบร้อยแล้ว หมอจะทำการวาดรูป Mark ตำแหน่ง วัดสัดส่วน และถ่ายรูปบริเวณที่จะทำการดูดไขมัน

3. ทำความสะอาดบริเวณที่จะทำการดูดไขมัน และบริเวณใกล้เคียง จากนั้นจะฉีดยาชาในบริเวณที่จะทำการเปิดแผล

4. เปิดแผลเล็กๆ ประมาณ 0.2 – 0.5 มิลลิเมตร เพื่อใส่ Tumescent ในขั้นตอนนี้คุณลูกค้าจะรู้สึกไม่เจ็บแล้วนะคะ

5. ใส่ Tumescent หรือสารละลายน้ำเกลือผสมยาชาเข้าไปในชั้นไขมัน เพื่อทำให้การสลายไขมันมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้คุณลูกค้ารู้สึกสบายในขั้นตอนการดูดไขมันด้วยค่ะ

6. เริ่มขั้นตอนการดูดไขมันหน้าท้อง โดยเทคนิคที่ใช้ในขั้นตอนนี้ของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป หมอจะทำการออกแบบให้คุณลูกค้าเฉพาะบุคคลสำหรับการเลือกใช้นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีในการสลายไขมันก้อนใหญ่ๆ ให้กลายเป็นอนุภาคเล็กๆ เพื่อง่ายต่อการดูดไขมันออกมา 

7. เย็บปิดปากแผล หลังจากดูดไขมันครบ 7 วันแล้ว หมอจะนัดคุณลูกค้าเข้ามาตัดไหมที่คลินิกนะคะ

8. หลังจากดูดไขมันครบ 2 สัปดาห์แล้ว หมอจะนัดเข้ามาทำตัวกระชับผิว RF และเลเซอร์ลดบวมด้วยนะคะ

ดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน หน้าท้อง ต้องดูแลอย่างไรบ้าง

การดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน-KMB-ดูดไขมัน
  • ควรทำความสะอาดแผล

ควรทำความสะอาดแผลทุกวันตามคำแนะนำของแพทย์

  • ห้ามแผลโดนน้ำ

ห้ามแผลโดนน้ำหลังดูดไขมัน 7 วัน ดังนั้นจึงควรงดอาบน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้แผลโดนน้ำ และแนะนำให้เช็ดตัวแทนการอาบน้ำ

  • ควรใส่ชุดกระชับ

ในเดือนแรก ควรใส่ชุดกระชับ 22-24 ชั่วโมง/วัน และ 2-6 เดือนถัดมา ใส่ 12 ชั่วโมงขึ้นไป

  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารหมักดอง

ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารหมักดอง รวมถึงอาหารทะเล อาหารดิบหรืออาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ และการสูบบุหรี่ ประมาณ 2-4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการอับเสบ และติดเชื้อ

  • ควรงดออกกำลังกาย และงดยกของหนัก

ควรงดออกกำลังกาย และการยกของหนักๆ หลังดูดไขมันประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้แผลเปิด

  • ต้องทานยาตามที่แพทย์สั่ง

ควรรับประทานยาจนครบตามที่แพทย์สั่ง

  • ควรมาพบแพทย์ตามนัด

หลังทำการดูดไขมันควรเข้ามาพบแพทย์ตามนัด เพื่อเช็คผล และติดตามผลการรักษา

  • หลังตัดไหม สามารถอาบน้ำได้ปกติ

หลังตัดไหม สามารถอาบน้ำได้ปกติ แต่ควรรีบเช็ดตัวให้แห้งสนิท

ดูดไขมัน หน้าท้อง น้ำหนักจะลดไหม?

ในร่างกายของคนเราจะประกอบไปด้วย กล้ามเนื้อ ไขมัน และน้ำ รวมถึงอวัยวะต่างๆ และกระดูกด้วยนะคะ แต่เคยสังเกตกันไหมว่าทำไมบางคนน้ำหนักเท่ากัน แต่รูปร่างกลับต่างกัน นั่นเป็นเพราะแต่ละคนมีปริมาณกล้ามเนื้อ ไขมัน และน้ำในร่างกายไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับอาหารที่กินเข้าไป การใช้ชีวิตประจำวัน การออกกำลังกาย และการดูแลตัวเองนั่นเองค่ะ คนส่วนใหญ่ที่อยากมีหน้าท้องแบนราบ ดูหุ่นดี ผอม และต้องการประหยัดเวลา  จึงมักจะเลือกวิธีการ ดูดไขมันหน้าท้อง เป็นทางออก ให้กับตัวเอง แต่!! รู้ไหมคะว่า “การดูดไขมันหน้าท้อง ไม่ใช่ การลดน้ำหนัก” เพราะมวลไขมันจะเบากว่าน้ำ เมื่อไขมันถูกดูดออกไป อาจจะช่วยให้น้ำหนักลดได้บ้างหรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เพราะฉะนั้นการ ดูดไขมันหน้าท้อง ไม่ได้ช่วยลดน้ำหนัก แต่เป็นแค่การลดไขมันส่วนเกิน และกระชับสัดส่วนเท่านั้น หากดูดไขมันหน้าท้องไปแล้วต้องการให้น้ำหนักลดลง ยังคงต้องออกกำลังกายและควบคุมอาหารร่วมด้วยนะคะ

ดูดไขมันหน้าท้อง หมอลูกหนู

ต้องเลือก ดูดไขมันหน้าท้อง วิธีไหน? ให้เหมาะกับเรา

เคยสงสัยกันไหมคะ ว่าดูดไขมันหน้าท้องวิธีไหนที่เหมาะกับเรา และหลังดูดไขมันไม่มีปัญหาผิวต่างๆ เกิดขึ้น เช่น ผิวเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบ เป็นต้น ส่วนในปัจจุบันนิยมแบ่ง และเรียกชื่อตามเครื่องมือที่ใช้ดูดไขมัน ได้แก่

  • Body Tite
  • Vaser Smooth 2.2
  • Microaire PAL
  • Body Jet
  • J Plasma
ดูดไขมันหน้าท้อง หมอลูกหนู

ดูดไขมัน หน้าท้อง ด้วย Body Tite

Body Tite เป็นการดูดไขมันที่ปล่อยคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency Assisted Liposuction) ออกมา เพื่อช่วยในการสลายไขมัน ให้มีโมเลกุลที่เล็กลง ทำให้สามารถดูดไขมันออกมาได้ง่าย ใช้กันอย่างกว้างขวาง เพราะข้อได้เปรียบของคลื่นวิทยุ มีส่วนทำให้ชั้นผิวหนังแท้มีการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวมีความกระชับขึ้น ถือได้ว่าเป็นจุดเด่นของ Body Tite เลยทีเดียวค่ะ

ข้อดีของ Body Tite

  • Body Tite เป็นเทคโนโลยีที่สามารถดูดไขมันไปพร้อมกับการยกกระชับผิวได้ในคราวเดียวกัน
  • เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับจาก US FDA และ อย.ไทย
  • บริเวณที่ดูดไขมัน ผิวหนังจะเรียบเนียนขึ้น สามารถกำจัดเซลลูไลท์ ผิวเป็นคลื่น ไม่เรียบ ได้
  • แผลผ่าตัด จะมีขนาดเล็ก ประมาณ 0.3 cm

ดูดไขมัน หน้าท้อง ด้วย Vaser Smooth 2.2

Vaser Smooth 2.2 ในปัจจุบันสามารถดูดไขมันในพื้นที่เล็กๆ ได้ โดยการใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound Assisted Liposuction) ทำให้ชั้นไขมันแตกตัวเป็นของเหลว ง่ายต่อการดูดไขมันออกมา และเครื่อง Vaser Smooth 2.2 นี้สามารถดูดไขมันออกมาได้ในปริมาณมากๆ จึงเหมาะกับการดูดไขมันบริเวณหน้าท้องอีกด้วยค่ะ

ข้อดีของ Vaser Smooth 2.2

  • เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับจาก US FDA และ อย.ไทย
  • ช่วยลดความเสี่ยงในการบวมช้ำที่อาจเกิดขึ้นได้
  • หลังดูดไขมันเสร็จ แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก และสามารถกลับบ้านได้

ดูดไขมัน หน้าท้อง ด้วย Microaire PAL

Microaire PAL เป็นเครื่องมือดูดไขมัน ไม่ต้องใช้ความร้อน และมีประสิทธิภาพการดูดไขมันได้ดี การดูดไขมันโดย Microaire PAL จะใช้แรงสั่นสะเทือน (Power Assisted Liposuction) ที่บริเวณแท่งดูดไขมัน เพิ่มความถี่ของการขยับเข็มดูดไขมัน จำนวนหลายพันรอบต่อวินาที ทำให้ดูดไขมันบริเวณหน้าท้องได้ปริมาณมาก โดยใช้เวลาไม่นาน แถมยังลดการเสียดสีระหว่างเนื้อเยื่อ เส้นเลือด และเส้นประสาทได้ ช่วยลดอาการบวมเขียวช้ำของเนื้อเยื่อบริเวณข้างเคียงได้อีกด้วยค่ะ

ข้อดีของ Microaire PAL

  • สามารถดูดไขมันได้ปริมาณมาก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดไขมัน โดยเฉพาะคุณลูกค้าที่เคยดูดไขมันหน้าท้องมาก่อน และต้องการทำซ้ำ
  • Microaire PAL มีหัวดูดไขมันที่หลากหลาย จึงทำให้เหมาะกับการใช้งานในหลายๆ บริเวณของร่างกาย
  • แพทย์ไม่จำเป็นต้องใช้แรงมากในระหว่างการดูดไขมัน เนื่องจากหัว Cannula ที่สั่นสะเทือนจะช่วยปล่อยเซลล์ไขมันออกจากร่างกายเอง
  • ลดอาการบวมเขียวช้ำของเนื้อเยื่อบริเวณข้างเคียงที่เกิดจากการเสียดสีของแท่งดูดไขมันได้
  • เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับจาก US FDA และ อย.ไทย ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ผลิตในสหรัฐอเมริกา
  • แผลผ่าตัดจะมีขนาดเล็กมากๆ สามารถกลับบ้านได้

ดูดไขมัน หน้าท้อง ด้วย J Plasma

J Plasma เทคโนโลยีจากสหรัฐอเมริกาที่คิดค้นมาเพื่อการยกกระชับผิวให้เรียบตึง ได้รับการรับรองจาก US FDA และ อย. ประเทศไทย โดยใช้หลักการทำงานของพลาสม่าฮีเลี่ยมผสานกับพลังงานความถี่คลื่นวิทยุ (Radio Frequency) ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีอ่อนโยนต่อเซลล์ผิวอีกด้วย

ข้อดีของ J Plasma

  • ผิวจะกระชับมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องหลังทำ 3-6 เดือน
  • ยกกระชับผิวได้อย่างแม่นยำ และตรงจุด
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนหลังทำ
  • หลังทำผิวจะกระชับในระยะยาว โดยไม่ต้องทำซ้ำติดต่อกัน
  • สามารถยกกระชับผิวได้แทบทุกส่วนในร่างกาย
  • เหมาะกับการทำ Six Pack และ Sexy Line
  • ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วหลังดูดไขมัน
  • แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กมากๆ (เป็นแผลเดียวกับแผลดูดไขมัน)

นวัตกรรมการดูดไขมัน เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผลลัพธ์การดูดไขมันออกมาสวยงาม คุณหมอลูกหนูเลือกใช้ Combination Technique โดยใช้เครื่องดูดไขมันมากกว่า 1 เครื่อง ให้เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล


ทำไมต้องดูดไขมันหน้าท้องกับคุณหมอลูกหนู

ประสบการณ์ยาวนานกว่า 17 ปี เราพร้อมที่จะให้คำแนะนำด้านการดูดไขมัน มีนวัตกรรมการดูดไขมันทุกรูปแบบที่สามารถช่วยปรับสัดส่วนและออกแบบรูปร่างได้อย่างตรงจุด คุณลูกค้าจำนวนมากได้ไว้ใจ เลือกเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลเคเอ็มบีคุณหมอลูกหนู

ดูดไขมันหน้าท้อง หมอลูกหนู
  • ใช้เทคนิคซ่อนแผล หมดกังวลรอยแผลหลังทำ
  • ออกแบบเฉพาะบุคคล แก้ปัญหาตรงจุดเฉพาะคุณ
  • ดูดไขมัน combine เทคนิคผสมผสานรวมหลายเครื่องมือดูดไขมัน
  • ทีมแพทย์ ดูแลใกล้ชิด ใส่ใจทุกขั้นตอน
  • เครื่องดูดไขมันครบครัน ทันสมัย ใช้เทคนิค FAT Focus , Body Tite , Vaser Smooth 2.2 , Microaire PAL, J Plasma, Combine Technique
  • ดูแลใกล้ชิดทั้งก่อนและหลังการรักษา มีบริการ After Care หลังดูดไขมันครบครัน

คุณลูกค้าที่ต้องการปรึกษาคุณหมอลูกหนู เรื่องการ ดูดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบตรงจุด และสามารถส่งรูป หรือ พิมพ์ข้อความ เข้ามาปรึกษาคุณหมอลูกหนูก่อนได้เลยค่ะ คุณหมอยินดีให้คำปรึกษาและแนะนำคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ


ลดน้ำหนัก ดูดไขมัน หมอลูกหนู
เพิ่มเพื่อน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร. 081-533-0444

[[ LINE ID ]] @KMBHOSPITAL (มี @ ด้วยนะคะ)

𝐂𝐎𝐍𝐓𝐀𝐂𝐓 𝐔S

➡️𝐋𝐢𝐧𝐞 : line.me/ti/p/@KMBhospital

➡️𝐓𝐞𝐥 : 081-533-0444

💻 Facebook : www.facebook.com/kmbhospital

📷 Instagram : instagram.com/kmb.hospital

🎬 Tiktok : tiktok.com/@dr.looknuu



 
error: Content is protected !!