
Signature Slim ลดน้ำหนัก ที่ดูแลโดยแพทย์
ปัญหาความอ้วนหรือน้ำหนักเกิน เกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญอาหารที่กินเข้าไปได้หมด แถมไม่มีเวลาออกกำลังกาย จึงถูกสะสมไว้ตามส่วนต่างๆ ในร่างกาย กลายเป็นไขมันสะสมหรือไขมันส่วนเกิน ทำให้อ้วนขึ้นแบบไม่รู้ตัว!
สาเหตุหลักของความอ้วน คือ การที่เรากินอาหารเข้าไปมากเกินความจำเป็น แล้วไม่ได้ออกกำลังกาย ทำให้เกิดการสะสมของไขมัน รวมไปถึงระบบการเผาผลาญของร่างกายทำงานไม่ดี และพันธุกรรม ซึ่งนอกจากจะอ้วนลงพุงแล้ว ยังก่อให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ตามมาอีกด้วย ทั้งโรคเบาหวาน โรคความดัน โรคหัวใจ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด รวมถึงการนอนกรน และภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ
นอกจากการลดสัดส่วนเพื่อความสวยงามแล้ว คุณหมอลูกหนูยังตระหนักถึงปัญหาสัดส่วนเกิน และน้ำหนักเกินที่มีผลต่อสุขภาพในระยะยาว เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องดูแล และรักษาที่ต้นเหตุ ทั้งระบบเผาผลาญอาหาร สมดุลฮอร์โมน การกินอาหาร และการออกกำลังกาย ด้วยเหตุผลเหล่านี้ คุณหมอลูกหนู จึงพัฒนาโปรแกรมลดน้ำหนักที่มีชื่อว่า Signature Slim ขึ้นมาสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนักและดูแลรูปร่าง
Signature Slim ลดน้ำหนัก ที่ออกแบบเฉพาะบุคคล
บอกลาลดน้ำหนักแบบเดิมๆ
ด้วยโปรแกรม Signature Slim
ของคุณหมอลูกหนู
ที่ออกแบบโปรแกรมเฉพาะบุคคล
นอกจากการ ดูดไขมัน ที่เห็นผลในการลดสัดส่วน คุณหมอลูกหนู ยังออกแบบโปรแกรมที่ช่วยลดน้ำหนัก โดยที่โปรแกรม Signature Slim เป็นโปรแกรมลดน้ำหนัก และสัดส่วนที่แก้ปัญหาตรงจุดของแต่ละบุคคล ร่วมกับการใช้นวัตกรรมในการกำจัดไขมันส่วนเกิน กระชับสัดส่วนและกระตุ้นการเผาผลาญ และการดูแลการทานอาหาร เพื่อการแก้ปัญหาที่ตรงจุด เ เหมาะกับผู้ที่มีข้อจำกัดทางด้านสุขภาพและไม่สะดวกในการออกกำลังกาย รวมถึงผู้สูงอายุ ก็สามารถทำโปรแกรม Signature slim ได้
Signature Slim คืออะไร?
เนื่องจากความอ้วนคือการมีไขมันสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นไขมันส่วนเกิน ซึ่งความอ้วนไม่ใช่เพียงแค่ทำให้รู้สึกอึดอัดเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพ และมีโรคต่างๆ ตามมาอีกด้วย เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด เป็นต้น
หากตัวการสำคัญของความอ้วนนั้น เกิดจากการกินอาหารที่มากเกินไป ระบบการเผาผลาญไม่ดี ไม่มีเวลาออกกำลังกาย และพันธุกรรม เราจึงต้องเน้นแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของความอ้วน
โรคเรื้อรังที่เกิดขึ้นแน่ หากยังปล่อยให้ตัวเองอ้วนลงพุงต่อไป
- โรคเบาหวาน
- โรคความดันโลหิตสูง
- โรคไขมันในเลือดสูง
- โรคหลอดเลือดหัวใจขาดเลือด
- โรคหัวใจ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด
- โรคอัลไซเมอร์
- โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
- ภาวะภูมิแพ้
- ภาวะไขมันพอกตับ
โรคเกาต์ โรคข้อเข่าเสื่อม
- ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea)
โปรแกรม Signature Slim ของ คุณหมอลูกหนู เป็นโปรแกรมลดน้ำหนักที่ออกแบบเฉพาะบุคคล เป็นตัวช่วยสำหรับคนอยากผอม ให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งโปรแกรมนี้สามารถลดปริมาณไขมันในร่างกาย ช่วยให้น้ำหนักลดลง อย่างมีประสิทธิภาพ เร่งกระบวนการเผาผลาญพลังงาน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว
ผลลัพธ์ที่ได้จาก Signature Slim
- ควบคุมปริมาณการกินอาหารได้ ทำให้อิ่มเร็วขึ้น และอิ่มนานช่วยให้น้ำหนักลดลง
- ช่วยลดความอยากอาหาร ลดการกินจุกจิกระหว่างมื้อ
- เพิ่มกระบวนการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย
- ช่วย Detox สารพิษออกจากร่างกาย
- ปรับสมดุลลำไส้ให้ทำงานได้อย่างปกติ
ข้อดีของ Signature Slim
- ช่วยปรับพฤติกรรมการกิน ลดความอยากอาหาร
- โปรแกรมลดน้ำหนักที่ดูแลโดยแพทย์ อย่างใกล้ชิด
- สุขภาพร่างกายดีขึ้น
- ไม่ใช่ “ยากิน” ลดน้ำหนัก
- ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ที่มีสาเหตุจากความอ้วน และไขมันที่สะสมเป็นจำนวนมาก
Signature Slim เหมาะกับใครบ้าง?
- ผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน ดัชนีมวลกายหรือ BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 30 คือ มีภาวะโรคอ้วน
- ผู้ที่มีดัชนีมวลกาย หรือ BMI 23.0 – 24.9 คือ มีภาวะน้ำหนักเกิน
- ผู้ที่ออกกำลังกายแต่น้ำหนักไม่ลด
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพด้านน้ำหนัก สามารถใช้ได้กับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง น้ำตาลในเลือดสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ มีปัญหาการหายใจระหว่างนอน ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ
- ผู้ที่ต้องการปรับพฤติกรรมการกิน
- ผู้ที่ชอบกินจุกจิกระหว่างวัน กินเท่าไรก็ไม่อิ่ม
- ผู้ที่ชอบทานของหวาน ของทอด ของมัน หรือมีแนวโน้มเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
ผลตอบรับจากผู้รับบริการจริง
Signature Slim ได้การตอบรับอย่างดีเยี่ยม ลูกค้าทุกท่านต่างประทับใจในผลลัพธ์ การดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมแพทย์ และเราหวังว่าทุกท่านจะได้รับการบริการที่ดีที่สุด
*ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างไปแต่ละบุคคล
อย่าปล่อยให้ “อ้วน” จนทำร้ายสุขภาพตัวเอง
ไขมัน หน้าท้อง แบ่งออกเป็น 2 ชั้น
ไขมันหน้าท้อง หรือที่เรียกกันว่า พุง ถือว่าเป็นปัญหากวนใจของหลายๆ คน เพราะหน้าท้องที่มีไขมันสะสมนั้นดูไม่สวยงาม แถมยังยื่นจนทำให้แต่งตัวชุดไหนก็ไม่มั่นใจ ซึ่งไขมันหน้าท้อง สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชั้นด้วยกัน คือ
1. ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat)
ไขมันที่พบได้ที่ชั้นใต้ผิวหนัง เมื่อสะสมเป็นจำนวนมากจะทำให้พุงยื่น พุงป่อง ออกมา ความหนาของไขมันชั้นนี้ สามารถวัดได้จากเครื่องหนีบวัดไขมันหรือวัดเบื้องต้นด้วยตัวเราเองโดยใช้มือบีบหยิบขึ้นมาได้ ซึ่งไขมันชั้นใต้ผิวหนังนี่เองที่สามารถทำการ ดูดไขมัน ออกได้
2. ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat)
ไขมันที่สะสมอยู่ลึกกว่าชั้นใต้ผิวหนัง และอยู่ใต้ชั้นกล้ามเนื้อหน้าท้องลงไปอีก โดยจะอยู่รอบอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ตับ กระเพาะอาหาร ลำไส้ หลอดเลือด เป็นต้น เมื่อสะสมเป็นเวลานานๆ ไขมันชนิดนี้ก็จะมีความแข็งตัวมากขึ้น ทำให้มีพุงยื่นออกมา และมีรอบเอวหนา ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพ และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ซึ่งไขมันในช่องท้องชั้นนี้ ไม่ สามารถดูดไขมันออกได้ หากจะทำการลดไขมันในชั้นนี้ ต้องลดน้ำหนัก คุมอาหาร และออกกำลังกาย
เรา “อ้วน” หรือยังนะ?
ค่า BMI บอกได้ว่า “คุณอ้วนหรือไม่?”
BMI (Body Mass Index) หรือดัชนีมวลกาย เป็นเกณฑ์สากลที่สามารถประเมินความอ้วน หรือผอม สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป สามารถวัดได้ทั้งผู้ชาย และผู้หญิง จากสูตรคำนวณ BMI = kg/m2
สูตรคำนวณหา BMI
ดัชนีมวลกาย (BMI) = น้ำหนักตัว(กิโลกรัม) / ส่วนสูง(เมตร)2
ผอมเกินไป = BMI น้อยกว่า 18.5
น้ำหนักน้อยกว่าปกติ เสี่ยงเป็นโรคได้เช่นกัน เนื่องจากการรับสารอาหารอาจไม่เพียงพอ ส่งผลให้ร่างกายอ่อยเพลียง่าย ควรกินอาหารที่มีประโยชน์ ในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน และออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
น้ำหนักปกติ = BMI 18.5 – 22.9
น้ำหนักที่เหมาะสม สำหรับคนไทย จะมีค่า BMI อยู่ระหว่าง 18.5 ถึง 22.9 ซึ่งสามารถห่างไกลจากโรคที่เกิดจากความอ้วน และมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ น้อยที่สุด
น้ำหนักเกิน = BMI 23.0 – 24.9
เป็นกลุ่มผู้ที่มีความอ้วนอยู่บ้าง ถ้าหากว่าประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง ถือว่ายังมีความเสี่ยงมากกว่าคนปกติ
อ้วน (อ้วนระดับ 1) = BMI 25.0 – 29.9
คนกลุ่มนี้ ถึงแม้จะยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ถือว่าอ้วนมากๆ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่มากับความอ้วนได้เช่นกัน ทั้งโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร ควรเริ่มออกกำลังกาย และควรมีการตรวจสุขภาพประจำปี
อ้วนมาก (อ้วนระดับ 2) = BMI ตั้งแต่ 30.0 ขึ้นไป
คนกลุ่มนี้ถือว่าค่อนข้างเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่มากับความอ้วนได้มากที่สุด ควรปรับพฤติกรรมการกินอาหาร และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
“เช็คอ้วน” ด้วยเส้นรอบเอว หรือ เส้นรอบพุง
การวัดเส้นรอบเอวหรือเส้นรอบพุง สามารถใช้สายวัดวัดรอบพุงโดยผ่านสะดือแบบขนานกับพื้นช่วงตอนเช้าก่อนกินอาหาร รัดสายวัดให้กระชับลำตัวไม่แน่นจนเกินไป และอ่านค่าในจังหวะหายใจออกพอดี
ซึ่งผู้ชายจะต้องมีค่าเส้นรอบเอวไม่เกิน 90 เซนติเมตร และผู้หญิงไม่เกิน 80 เซนติเมตร ถ้าเส้นรอบเอวใหญ่เกินกว่านี้อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ จากโรคอ้วนได้
เพราะฉะนั้น เราจึงไม่จำเป็นต้องลดน้ำหนักทั้งตัวหรือกังวลกับตัวเลขน้ำหนักตัวบนตราชั่ง เพื่อแลกกับการมีหุ่นสวยอีกต่อไปแล้วค่ะ แค่เปลี่ยนมาเป็นการลดสัดส่วนด้วยการกำจัดไขมันส่วนเกินออกไป และสร้างกล้ามเนื้อแทน เพียงเท่านี้การมีหุ่นสวยก็จะไม่ใช่แค่ฝันอีกต่อไป
คุณหมอลูกหนู พร้อมให้คำปรึกษา และดูแลอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน ตั้งแต่วิเคราะห์หาสาเหตุต้นตอของการมีภาวะน้ำหนักเกิน โดยการวิเคราะห์ปัญหาของลูกค้าแต่ละท่านอย่างตรงจุด และออกแบบการลดน้ำหนักเฉพาะบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
หากใครที่สนใจอยากให้ คุณหมอลูกหนู ดูแลคุณ เพื่อให้คุณกลับมามั่นใจในรูปร่าง และมีสุขภาพดีอีกครั้ง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดคิวปรึกษาคุณหมอได้เลยนะคะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 081-533-0444
[[ LINE ID ]] @KMBHOSPITAL (มี @ ด้วยนะคะ)
𝐂𝐎𝐍𝐓𝐀𝐂𝐓 𝐔S
𝐋𝐢𝐧𝐞 : line.me/ti/p/@KMBhospital
𝐓𝐞𝐥 : 081-533-0444
Facebook : www.facebook.com/kmbhospital
Instagram : instagram.com/kmb.hospital
Tiktok : tiktok.com/@dr.looknuu