เคล็ดลับกระตุ้น ' ระบบเผาผลาญ ' เพิ่มได้แค่ปรับเปลี่ยน!

ระบบเผาผลาญ เพิ่มได้แค่ปรับเปลี่ยน!

สาว ๆ เคยสังเกตพฤติกรรมของตัวเองไหมคะว่า กินเท่าไหร่ก็อ้วน จะกินน้อย กินมาก หรือควบคุมอาหารยังไงก็อ้วน แต่ในขณะที่สาว ๆ บางคน กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน สาเหตุนั่นก็เพราะ แต่ละคนมีการเผาผลาญที่ต่างกัน บางคน เผาผลาญดีก็จะไม่อ้วน แต่สำหรับบางคน คือ ประเภทที่กินหรือไม่กิน ก็อ้วน เพราะ ระบบเผาผลาญ พัง ในส่วนของคนที่การเผาผลาญดีเกินไป อาจจะผอมเกินมาตรฐาน

โดยส่วนใหญ่
ระบบเผาผลาญที่เสื่อมหรือแย่ลง
เกิดจากการไม่ใส่ใจในการเลือกกินอาหาร และพฤติกรรมของแต่ละบุคคล

อาจจะด้วยปัจจัยที่ว่า มีอะไรก็กิน กินตามสะดวก หรือกินอาหารไม่ตรงเวลา หรือดื่มน้ำน้อย ก็เป็นปัจจัยสำคัญ รวมไปถึง เรื่องของอายุ เพศ แล้วก็ กรรมพันธุ์ด้วย แต่เมื่อร่างกาย เผาผลาญได้น้อยลง สรุปก็คือว่า มันก็จะอ้วนขึ้น อ้วนขึ้น ต่อให้กินน้อย ยังไงก็ไม่ผอม ซึ่งการที่ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญสารอาหารที่รับประทานเข้าไปมาใช้เป็นพลังงานได้ ทำให้ยังมีสารอาหารตกค้างและไปสะสมเป็นไขมันตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งจุดสำคัญที่มักจะเกิดการสะสมของไขมันมีด้วยกัน 4 จุด ได้แก่

1. กล้ามเนื้อ

การสะสมของไขมันบริเวณกล้ามเนื้อมักจะเจอในคนที่อ้วนมาก ๆ และมักเจอในคนที่เป็นโรคเบาหวาน

2. ใต้ผิวหนัง

สามารถพบการสะสมไขมันในส่วนนี้ได้มากตามบริเวณ หน้าท้อง เอว ก้น สะโพก ต้นแขน ต้นขา หรือที่รู้จักกันดีคือ เซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้มนั่นเอง

3. ช่องท้อง

การสะสมของไขมันบริเวณช่องท้องจะทำให้เกิดภาวะอ้วนลงพุง และถ้าหากมีไขมันสะสมมากเกินไป ไขมันจะไปเบียดอวัยวะภายในช่องท้อง ซึ่งอาจทำให้อวัยวะนั้นทำงานผิดปกติ และเกิดโรคร้ายตามมาได้

4.รอบอวัยวะภายใน

อย่างที่บอกไปว่าหากมีการสะสมของไขมันบริเวณช่องท้องมาก ๆ ไขมันก็มีโอกาสไปเบียดและไปพอกอวัยวะภายในได้ เช่น อาจจะเกิดไขมันพอกตับ

ดังนั้น เราต้องมาปฏิวัติ วิธีการกินกันใหม่ มาปฏิบัติตัวกันใหม่ เรียกว่าการ กระตุ้น ระบบเผาผลาญ ให้กลับมาทำงาน ได้เป็นปกติ เพื่อให้ระบบการเผาผลาญดีขึ้นกว่าที่เคยกันค่ะ แต่ก่อนอื่นเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ระบบเผาผลาญ ของเรานั้นทำงานแย่ลง

5 สัญญาณบ่งบอก ระบบเผาผลาญ ต่ำ

คุณหมอลูกหนูมี 5 สัญญาณที่บ่งบอกว่าระบบเผาผลาญของเราทำงานต่ำลงมาให้ได้ลองเช็กดู ดังนี้

🔸 ลดน้ำหนักได้ยาก

ระบบเผาผลาญ ลดน้ำหนักยาก — ทั้งควบคุมอาหาร ทั้งออกกำลังกายเท่าไหร่ น้ำหนักก็ไม่ลดลง

🔸 ง่วงบ่อย ไม่สดชื่น

ง่วงบ่อย ระบบเผาผลาญ — นอนเต็มอิ่ม แต่ตื่นมายังรู้สึกง่วง ไม่สดชื่นเลย!

🔸 ผมร่วง ผิวแห้งกร้าน

ผมร่วง เผาผลาญ — ใช้ครีมบำรุงสม่ำเสมอ ทั้งผมและผิวกาย แต่ยังไม่ดีขึ้น

🔸 ประจำเดือนมาไม่ปกติ

ประจำเดือนมาไม่เคยตรงวัน นี่ไม่ปกติเลยนะ!

🔸 น้ำหนักขึ้นง่าย ทั้งที่กินน้อย

น้ำหนักขึ้นง่าย ระบบเผาผลาญ — กินน้อยมาก เหมือนแค่มองเราก็อ้วนแล้ว!

สาเหตุที่ทำให้ ระบบเผาผลาญ ลดลง
เนื่องจากมีหลายหลายสาเหตุที่ทำให้ระบบเผาผลาญของเราลดลง มาดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

ระดับฮอร์โมนผิดปกติ

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมขาดไทรอยด์ฮอร์โมนถึงทำให้ระบบเผาผลาญไม่ดี นั่นก็เพราะว่าไทรอยด์ฮอร์โมนนั้นเกี่ยวข้องกับกระบวนการเผาผลาญ ที่สามารถช่วยให้การเผาผลาญเพิ่มขึ้นได้ ถ้าขาดไปการเผาผลาญก็จะลดลง

อายุเพิ่มมากขึ้น

เป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้วที่พออายุมากขึ้น ระบบต่าง ๆ ในร่างกายก็จะเริ่มแย่ลง ระบบเผาผลาญเองก็เช่นกัน มันจะแย่ลงตามอายุที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง

มวลกล้ามเนื้อน้อยลง

มวลกล้ามเนื้อลดลง และสะสมไขมันเพิ่มมากขึ้น จะอยู่ในสภาวะ “อ้วนง่ายผอมยาก”

ลดน้ำหนักผิดวิธีซ้ำๆ

สังเกตได้ว่าคนที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีที่ผิด สุดท้ายก็จะตบะแตกเสียก่อน กินมากกว่าเดิม หมดกำลังใจในการดูแลรูปร่าง หิวกว่าเดิม เพลีย รู้สึกไม่สบายตัว ไม่สดชื่น เพราะฝืนธรรมชาติมากเกินไป สุดท้ายน้ำหนักพุ่งขึ้นมามากกว่าเดิม

กินน้อย อดอาหาร

หากพยายามอดอาหารหรือควบคุมอาหารแบบผิดวิธี ร่างกายจะคิดว่าเรากำลังขาดอาหาร ร่างกายเลยปรับตัวเองให้เข้าสู่สภาวะจำศีล โดยปรับการเผาผลาญให้น้อยลง เพื่อกักเก็บไขมันและพลังงาน

ขาดการออกกำลังกาย

แน่นอนว่าคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายเลย ย่อมไม่มีสิ่งที่ไปช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานดีขึ้น ง่ายต่อการเก็บสะสมไขมัน ระบบเผาผลาญจึงแย่ลงเรื่อยๆนั่นเอง

8 เคล็ดลับกระตุ้น ‘ ระบบเผาผลาญ ‘ เพิ่มได้แค่ปรับเปลี่ยน!

สำหรับใครที่อยากรู้วิธีเพิ่มอัตราการเผาผลาญ หรือ กระตุ้นระบบเผาผลาญ ขอบอกว่าไม่ใช่เรื่องยากเลย เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกายนิด ๆ หน่อย ๆ ระบบเผาผลาญก็อาจจะดีขึ้นโดยไม่รู้ตัว แถมสุขภาพดีขึ้นอีกต่างหาก ถ้าอยากรู้ว่ามีวิธีอะไรบ้าง คุณหมอลูกหนูจะพาไปดูกันค่ะ

1. เลือกรับประทานคาร์โบไฮเดรต และไขมันดี

ร่างกายใช้เวลาย่อยนาน ไม่หิวบ่อย เช่น แป้งไม่ขัดขาว ธัญพืช

2. ดื่มน้ำสะอาด 8-10 แก้ว หรือประมาณ 1.5 – 2 ลิตรต่อวัน

การดื่มน้ำนอกจากจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นแล้ว ยังมีส่วนช่วยในระบบการขับถ่ายและกระบวนการเผาผลาญได้

3. มีกิจกรรมการเคลื่อนไหวระหว่างวันเพิ่มมากขึ้น

หากปรับพฤติกรรมใหม่ ร่างกายก็จะปรับระบบเผาผลาญให้สอดคล้องกัน อย่าเพิ่งยอมแพ้ไปเสียก่อน พยายามรักษาวินัย

4. ไม่ควรอดอาหาร

เพราะการอดอาหารจะทำให้ร่างกายลดระบบการเผาผลาญลง และทำให้เรารู้สึกอยากกินอาหารในมื้อถัดไปมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว

5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

การพักผ่อน เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก การเข้านอนตั้งแต่เวลา 22.00น จะมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย และช่วยให้ระดับฮอร์โมนเกิดความสมดุลได้อีกด้วย

6. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง

🔸 ออกกำลังกายให้หลากหลาย – ลดความจำเจ เพื่อให้ออกกำลังกายได้ต่อเนื่องเป็นประจำ

🔸 ออกกำลังกายให้หนัก – เพิ่มเวลาให้นานขึ้น หรือเพิ่มความเข้มข้น เพื่อเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน

🔸 ออกกำลังกายให้ครบ – ทั้งการคาร์ดิโอ และการสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อให้มีมวลกล้ามเนื้อครบทุกส่วน

7. เลือกรับประทานอาหารให้หลากหลาย สารอาหารครบถ้วน

เลือกกินอาหารให้หลากหลายมากขึ้น เพื่อลดแคลอรีที่ร่างกายรับเข้าในแต่ละวันให้น้อยลง

🔸 เพิ่มผัก-ผลไม้ – เพื่อลดสัดส่วนอาหารประเภทอื่น ๆ ให้น้อยลง

🔸 เน้นโปรตีน – เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่จะช่วยเรื่องการเผาผลาญพลังงาน

8. รับประทานโปรตีนให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย

อาหารประเภทโปรตีน จะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นระบบเผาผลาญ ในคนปกติควรรับประทานโปรตีนประมาณ 1 กรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม (ยกเว้นผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือต้องจำกัดโปรตีน) โดยแหล่งของโปรตีนในอาหารพบได้ใน

🔸 ไข่

🔸 นม

🔸 เนื้อสัตว์

🔸 ถั่วเหลือง

หากปรับพฤติกรรมแล้ว ระบบเผาผลาญยังไม่ดีขึ้น รับประทานเท่าไรก็ยังอ้วนง่าย น้ำหนักไม่ลง อาจเกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนไทรอยด์ ที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญพลังงาน เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ 8 เคล็ดลับกระตุ้น ‘ ระบบเผาผลาญ ‘ เพิ่มได้แค่ปรับเปลี่ยน! ที่คุณหมอลูกหนูได้แนะนำ ทำตามได้ง่ายมาก ๆ เลยใช่มั้ยล่ะคะ เราเชื่อว่าถ้าทุกคนตั้งใจและทำตามอย่างเคร่งครัด สม่ำเสมอ ระบบเผาผลาญต้องกลับมาดี หุ่นต้องกลับมาฟิตและเฟิร์มแน่นอน

แต่ทั้งนี้ ปัญหาความอ้วนหรือน้ำหนักเกิน เกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญอาหารที่กินเข้าไปได้หมด แถมไม่มีเวลาออกกำลังกาย จึงถูกสะสมไว้ตามส่วนต่างๆ ในร่างกาย กลายเป็นไขมันสะสมหรือไขมันส่วนเกิน ทำให้อ้วนขึ้นแบบไม่รู้ตัว!

สาเหตุหลักของความอ้วน คือ การที่เรากินอาหารเข้าไปมากเกินความจำเป็น แล้วไม่ได้ออกกำลังกาย ทำให้เกิดการสะสมของไขมัน รวมไปถึงระบบการเผาผลาญของร่างกายทำงานไม่ดี และพันธุกรรม ซึ่งนอกจากจะอ้วนลงพุงแล้ว ยังก่อให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ตามมาอีกด้วย ทั้งโรคเบาหวาน โรคความดัน โรคหัวใจ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด รวมถึงการนอนกรน และภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ

นอกจากการลดสัดส่วนเพื่อความสวยงามแล้ว คุณหมอลูกหนูยังตระหนักถึงปัญหาสัดส่วนเกิน และน้ำหนักเกินที่มีผลต่อสุขภาพในระยะยาว เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องดูแล และรักษาที่ต้นเหตุ ทั้งระบบเผาผลาญอาหาร สมดุลฮอร์โมน การกินอาหาร และการออกกำลังกาย ด้วยเหตุผลเหล่านี้ คุณหมอลูกหนูจึงพัฒนาโปรแกรมลดน้ำหนักที่มีชื่อว่า Signature Slim ขึ้นมาสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนักและดูแลรูปร่างให้เห็นผลอย่างยั่งยืน

โปรแกรม Signature Slim

Signature Slim เป็นโปรแกรมการลดน้ำหนัก ที่แตกต่างจากวิธีอื่นๆ เป็นการรักษาที่ต้นเหตุของความอ้วน ตั้งแต่การวิเคราะห์ถึงสาเหตุ ตรวจเช็คร่างกาย เพื่อดูองค์ประกอบต่างๆ ทั้งมวลไขมัน มวลกล้ามเนื้อ และน้ำในร่างกาย เพื่อให้รู้ว่าปัญหาไขมันอยู่ที่ใดบ้าง ใต้ผิวหนังหรือภายในช่องท้อง มีมากน้อยเท่าไร โดย คุณหมอลูกหนู จะทำการออกแบบโปรแกรมเฉพาะแต่ละบุคคล เพื่อให้เหมาะสมและแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ซึ่งรับรองถึงความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ลดจริง ลดเร็ว และไม่โทรม เรียกได้ว่าผอมแบบปลอดภัย และสุขภาพดีอีกด้วยค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

คุณลูกค้าที่ต้องการปรึกษาคุณหมอลูกหนู เรื่องการ ดูดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบเห็นผลจริง และปลอดภัย สามารถส่งรูป หรือ พิมพ์ข้อความ เข้ามาปรึกษาคุณหมอลูกหนูก่อนได้เลยค่ะ คุณหมอยินดีให้คำปรึกษาและแนะนำคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ