ภาวะแทรกซ้อนหลังการดูดไขมัน

ภาวะแทรกซ้อนหลังการดูดไขมัน

การดูดไขมัน เป็นกระบวนการศัลยกรรมเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปร่าง ปรับเปลี่ยนสรีระจากอ้วนสู่ความผอม รูปร่างเปลี่ยนไปโดยการใช้เทคนิคการดูดไขมันส่วนเกินที่เราไม่ต้องการ ออกจากส่วนต่างๆของร่างกายโดยการดูดไขมันเฉพาะจุด ซึ่งจุดที่ดูดไขมันนั้นเป็นจุดที่ลดไขมันได้ยาก แม้ว่าจะควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้วก็ตาม บริเวณที่นิยมดูดไขมัน ได้แก่ หน้าท้อง, สะโพก, ขาด้านนอก และด้านใน, แขน, เหนียง และแก้ม เป็นต้น ดูดไขมันเหมาะกับบุคคนที่มีรูปร่างไม่สมส่วน มีส่วนเกินสะสมมานาน ลดเองไม่ได้ต้องการให้ไขมันบริเวณนั้นหายไป หรือมีไขมันมากเกินพอดีต้องกำจัดไขมันส่วนเกินออกไป

หลังจากการดูดไขมันเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น ภาวะแทรกซ้อนหลังการดูดไขมัน สิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้มีทั้งผลข้างเคียงที่ไม่ร้ายแรงคนไข้สามารถจัดการเองได้ และ ภาวะแทรกซ้อนที่ควรระวังเมื่อเกิดอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์ทันที บทความนี้หมอจะพาไปทำความเข้าใจกันดังนี้ค่ะ http://ดูดไขมันคุณหมอลูกหนู

ภาวะแทรกซ้อนหลังการดูดไขมัน ที่ไม่ร้ายแรง

1. อาการวิงเวียน หน้ามืด

อาการที่จะเกิดขึ้นหลังดูดไขมันคือ อาการวิงเวียนหรือหน้ามืด เกิดจากการสูญเสียน้ำในร่างกายในขณะดูดไขมัน และเกิดจากยาชาที่ใส่เข้าไปในบริเวณที่ดูดไขมัน เพื่อระงับความเจ็บในระหว่างการดูดไขมัน สาเหตุเหล่านี้ทำให้วิงเวียนศีรษะ บางท่านอาจถึงขั้น คลื่นไส้อาเจียน อาการของคนไข้แต่ละคนแตกต่างกันออกไป แพทย์แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆเพื่อทดแทนน้ำที่เสียไป อาการนี้ถือเป็นเรื่องปกติไม่ใช่อาการร้ายแรง อาการวิงเวียน หน้ามืดจะหายไปภายใน 24 ชั่วโมงหลังดูดไขมัน

2. อาการบวมบริเวณที่ดูดไขมัน

อาการบวมจะเกิดขึ้นทันทีหลังการดูดไขมัน เนื่องจากเกิดการอักเสบใต้ชั้นผิวหนังบริเวณที่ดูดไขมัน อาการบวมจะเกิดจากการใช้น้ำเกลือกับยาชาฉีดไปบริเวณที่ทำการดูดไขมัน 3 วันแรกหลังการผ่าตัด จะมีอาการบวมมากที่สุด สัดส่วนของร่างกายจะยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ในช่วง 1-2 วันแรก น้ำเกลือจะซึมออกจากแผล และขับออกทางปัสสาวะ หลังจากการซึมของน้ำเกลือหายไปแล้วแต่อาการบวมบริเวณที่ดูดไขมันจะยังคงอยู่ แต่เปลี่ยนไปเป็นอาการบวมที่เกิดจากการอักเสบแทน ซึ่งอาการบวมจะค่อยๆ ยุบลงไปเอง คนไข้ไม่ต้องกังวลในส่วนนี้เพราะถือเป็นเรื่องปกติของการดูดไขมันที่จะเกิดอาการบวม

3. เกิดก้อนแข็ง ก้อนไต
หลังการดูดไขมันไปแล้วประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังแผลหายดี จะเกิดอาการที่ผิวบริเวณที่ดูดไขมันจะเป็นก้อนแข็งใต้ผิวทำให้ผิวไม่เรียบสวยงาม หรือที่เรียกว่าผิวเป็นคลื่น ซึ่งมักเกิดกับคนที่ดูดไขมันไปแล้ว ไม่ใส่ชุดกระชับหลังดูดไขมัน จึงทำให้เกิดเป็นก้อนไตแข็งๆ ก้อนแข็งนี้เราสามารถทำการสลายก้อนแข็งไปได้โดยการนวดกระชับ RF หลังการดูดไขมัน เพื่อช่วยให้ผิวบริเวณที่ดูดไขมันเกิดความกระชับมากขึ้นอีกทั้งยังทำให้ก้อนแข็ง ก้อนไตหายไปได้อีกด้วย แนะนำให้เข้ามาพบแพทย์เพื่อติดตามอาการตามที่แพทย์นัดไว้แล้ว เพื่อความสวยงามของรูปร่างและมีผิวที่เรียบเนียนสวยงาม

4.อาการปวดบริเวณที่ดูดไขมัน

อาการปวด หลังดูดไขมันถือเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้น เพราะอวัยวะภายในเกิดการอักเสบ แต่ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นกังวล เพราะอาการปวดจะหายไปได้เอง อาการปวดจะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาไม่นานมากนัก โดยในช่วงหลังการดูดไขมัน ในช่วงเวลา 1-3 วันแรก อาจมีความรู้สึกปวดค่อนข้างมากเพราะยาชาเริ่มหมดฤทธิ์แล้ว ซึ่งลักษณะความปวดอาจเป็นความรู้สึกไม่สบายตัว ปวดตึง เจ็บแผลผ่าตัด หรือปวดเมื่อยบริเวณที่ทำการดูดไขมัน ปกติอาการปวดจะค่อยๆลดลงหลังการดูดไขมันวันที่ 3 เป็นต้นไป โดยจะค่อยๆลดลงเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาการเข้าที่ของร่างกาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอาการปวดจะลดลงมากประมาณช่วงหลังผ่าตัดได้ 1-2 สัปดาห์

ภาวะแทรกซ้อนหลังการดูดไขมัน ที่ควรระวัง

1. ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นบริเวณที่ทำการดูดไขมัน

– ผิวบริเวณที่ทำการดูดไขมัน กลายเป็นผิวที่ขรุขระไม่เรียบสวย ซึ่งเป็นอาการที่หลายๆคนพบเจอหลังทำการดูดไขมัน และสามารถแก้ไขได้ยากพอสมควร สาเหตุที่ผิวเกิดความขรุขระคือเครื่องมืออาจจะไม่ได้มาตรฐาน หรือแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ ในบางท่านต้องแก้ไขโดยการดูดบริเวณนั้นซ้ำเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด หรือฉีดไขมันเข้าไปบริเวณที่เกิดความไม่สม่ำเสมอของผิวมากจนเกินไป

– เลือดออกในขณะที่ทำการดูดไขมันมากจนเกินไป สาเหตุอาจเกิดจากการใช้อุปกรณ์ดูดไขมันที่ไม่ได้ขนาด หรือใช้หัวดูดที่มีขนาดใหญ่จนเกินไป อีกหนึ่งสาเหตุคือตัวยาชาไม่ได้มาตรฐานหยุดเลือดไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้คนไข้เสียเลือดมากจนเกินไป นี่เป็นสาเหตุสำคัญที่อาจเกิดขึ้นได้หากคนไข้ทำการดูดไขมันกับแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญและไม่มีประสบการณ์มากพอ

– หลังดูดไขมันจะเกิดอาการชาบริเวณที่ดูดไขมัน ในบางท่านจะรู้สึกเจ็บแปลบๆ บริเวณผิวที่ทำการดูดไขมัน ซึ่งอาการชาถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าตอนดูดไขมันท่อดูดไขมันไปกระทบต่อเส้นประสาทใหญ่บริเวณที่ดูดไขมันโดยตรง อาการชาและเจ็บแปลบๆ จะมากกว่าปกติ

– อาการบาดเจ็บต่ออวัยวะภายในที่อยู่ใต้ชั้นไขมัน จากท่อที่ใช้ดูดไขมันทะลุผนังช่องท้องไปโดนอวัยวะภายในกรณีทำที่หน้าท้อง สิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นจริง เพราะฉะนั้นแพทย์ต้องระวังเป็นอย่างมากตอนทำการดูดไขมัน

 – การติดเชื้อบริเวณที่ดูดไขมัน ไม่ว่าจะติดเชื้อภายในหรือติดเชื้อบริเวณแผล เกิดขึ้นไม่บ่อยมากนัก ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อที่ไม่รุนแรง สามารถรักษาให้หายไปได้ พบในคนไข้ที่ดูแลแผลไม่ดี ปล่อยให้แผลโดนน้ำ รับประทานอาหารที่มีเชื้อโรคเข้าไปทำให้แผลเกิดการอักเสบและติดเชื้อตามมา


2. ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นกับร่างกายทั้งระบบ
– ภาวะน้ำเกลือมากเกินไป เกิดจากการที่แพทย์ทำการฉีดน้ำเกลือเข้าชั้นใต้ผิวหนังจำนวนมากในการดูดไขมัน น้ำเกลือเหล่านี้ร่างกายจะดูดซึมเข้าสู่ระบบไหลเวียน  ถ้ามากเกินขนาดที่หัวใจจะรับไหว ก็เป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลย ซึ่งอาการแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ถ้าแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ

– ภาวะการแพ้ยาชาและได้รับยาชาเกินขนาด เป็นการแพ้ยาชาที่ถึงแม้ได้รับยาชาเข้าไปเพียงเล็กน้อยก็จะเกิดการชารอบปาก ผื่นตามตัว แน่นหน้าอก ความดันโลหิตตก ช็อกหมดสติ  หรือได้รับยาชาเกินขนาด คือได้รับยาชาเข้าไปจำนวนมากเกินกว่าที่ร่างกายจะทำลายได้ทัน ยาชาจะไปมีผลกับหัวใจทำให้อาจเกิดอันตรายได้ เพราะฉะนั้นคนไข้ควรแจ้งประวัติการรักษากับทางแพทย์โดยตรงว่ามีประวัติการแพ้ยาชาหรือไม่

สรุป ภาวะแทรกซ้อนหลังการดูดไขมัน

ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น การเสียเลือดมาก การมีเซลล์ไขมันหลุดไปตามกระแสโลหิต การได้ยาชามากเกินขนาด ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้พบได้น้อยมากมักพบในคนไข้ที่ดูดไขมันปริมาณมากเกินไปในครั้งเดียว
ภาวะแทรกซ้อนทั่วไป เช่น อาการบวมช้ำ อาการปวดแผลบริเวณที่ดูดไขมัน อาการคลื่นไส้อาเจียนซึ่งแพทย์จะชี้แจงรายละเอียดและสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังดูดไขมันให้ชัดเจนตั้งแต่ก่อนดูดไขมัน ว่าผลที่ได้และภาวะแทรกซ้อนจะเป็นอย่างไร ตัวคนไข้เองต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้เกิดผลข้างเคียงที่น้อยที่สุด ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นเรื่องปกติพบได้ทั่วไปหลังดูดไขมันซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปได้เอง เมื่อร่างกายปรับตัวได้แล้ว
ภาวะผิวหนังเป็นคลื่นผิวไม่เรียบ เกิดจากการดูดไขมันในชั้นที่ตื้นเกินไปหรือดูดไขมันในบริเวณที่มีไขมันน้อย หรือแพทย์ที่ทำการดูดไขมันไม่มีความเชี่ยวชาญ คนที่มีอายุมากความยืดหยุ่นผิวหนังน้อยมีปัญหาความหย่อนคล้อย

สรุป ภาวะแทรกซ้อนนั้นเกิดได้หลายอย่าง มีทั้งอาการที่เกิดขึ้นแต่ไม่เป็นอันตรายแก่ร่างกายสามารถหายไปได้เอง และภาวะแทรกซ้อนที่ให้โทษกับร่างกายโดยตรงต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ ซึ่งภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายนั้นจะเกิดจาก แพทย์ขาดประสบการณ์ในการดูดไขมันหรือไม่มีความเชี่ยวชาญที่มากพอ อีกทั้งการดูดไขมันออกเป็นปริมาณมากๆทำให้ต้องใช้เวลาทำผ่าตัดนานมากขึ้น คนไข้ก็จะอ่อนเพลียลงเพราะ ฉะนั้นควรดูดไขมันกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และทำการดูดไขมันในบริเวณที่เป็นกังวลเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องดูดไขมันทั้งตัว แก้ไขจุดบกพร่องเพื่อความสวยงามและความปลอดภัยต่อชีวิตของคนไข้เอง ทั้งนี้ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงเกิดขึ้นได้น้อยมากในปัจจุบัน เพราะทีมแพทย์มีประสบการณ์ เครื่องมือในการดูดไขมันก็ทันสมัย การดูดไขมันกับคุณหมอลูกหนู มีความปลอดภัยอย่างแน่นอนค่ะ

ทักแชทมาปรึกษาได้เลยค่ะ

ดูดไขมันลดน้ำหนักและสัดส่วน
✔️ ปลอดภัย ✔️ ได้มาตรฐาน ✔️ ดูแลอย่างใกล้ชิด
โดยคุณหมอลูกหนูและทีมแพทย์ด้านการออกแบบรูปร่าง

𝐂𝐎𝐍𝐓𝐀𝐂𝐓 𝐔S
➡️𝐋𝐢𝐧𝐞 : line.me/ti/p/@marvelousclinic
➡️𝐓𝐞𝐥 : 081-533-0444
➡️𝐈𝐧𝐛𝐨𝐱 : http://m.me/marvelousclinic
➡️𝐈𝐆 : www.instagram.com/marvelousclinic
➡️𝐘𝐨𝐮𝐭𝐮𝐛𝐞: https://www.youtube.com/c/DoctorLooknuu

error: Content is protected !!