พุง คุณเป็นแบบไหน พุงเกิดจากอะไร พร้อมวิธีลดพุง

หลายๆ คนคงกำลังเจอกับปัญหาการมีพุงอยู่ใช่ไหมคะ? เพราะความจริงแล้วไม่ว่าจะอ้วนหรือผอม ก็มีโอกาสที่จะมีพุงกันได้ทั้งนั้น พุงเกิดจากการสะสมของไขมันที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปัจจัยหลักคือการใช้ชีวิตประจำวัน กินตามใจปาก ไม่ควบคุมอาหาร หรือบางคนไม่มีเวลามากพอที่จะออกกำลังกาย หรือนั่งเป็นเวลานานๆ แม้กระทั่งคุณแม่หลังคลอดก็มักจะเจอปัญหานี้ พุงแต่ละแบบนั้นก็มาจากสาเหตุที่แตกต่างกันไป และที่สำคัญพุงแต่ละแบบก็มีวิธีลดที่แตกต่างกันไป วันนี้เราจะพาสาวๆ มาสำรวจพุงตัวเองกันค่ะ ว่า พุง คุณเป็นแบบไหน และต้องกำจัดพุงยื่นๆ ยังไง ถึงจะเปลี่ยนพุงใหญ่ๆ ให้เป็นพุงแบนๆ ได้

สำหรับลักษณะของพุงนั้น มี 5 แบบด้วยกันค่ะ มาดูกันว่า เรามีพุงแบบไหน!

พุงแบบที่ 1

พุงกลม | Alcohol Belly

ลักษณะ : มีพุงกลมๆ ยื่นออกมาแบบเห็นได้ชัด มีไขมันสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก

สาเหตุ : คนที่มีพุงกลมๆ แบบนี้ก็คือคนที่มักจะดื่มแอลกอฮอล์อยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ หรือเครื่องดื่มอะไรก็ตามที่มีแอลกอฮอล์ ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดพุงกลมแบบนี้ เพราะแอลกอฮอล์จะส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้กระเพาะย่อยอาหารได้ยากขึ้น และเมื่ออาหารที่กินเข้าไปไม่ย่อย ก็จะเกิดเป็นพุงกลมๆ ป่องออกมาชัดเจน และที่สำคัญแอลกอฮอล์มีปริมาณน้ำตาลและแคลอรี่อยู่สูง จึงไม่แปลกเลยค่ะที่จะทำให้กลายเป็นคนอ้วนลงพุง

วิธีลดพุง :

งดการดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มต่างๆ ที่มีปริมาณน้ำตาลสูง

ควรกินผัก และผลไม้ให้มากขึ้น เพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี

ออกกำลังกายให้มากขึ้น เน้นท่าที่ลดหน้าท้อง มีวินัยในการออกกำลังกาย

พุงแบบที่ 2

พุงหมาน้อย | Hormonal Belly

ลักษณะ : เป็นแบบพุงด้านบนเรียบปกติ แต่มีพุงด้านล่างห้อย

สาเหตุ : เกิดจากการที่เรากินขนมหวานมากเกินไป รวมถึงการกินข้าว ขนมปัง และอาหารที่มีน้ำตาลมากอีกด้วย และคนที่มีพุงแบบนี้มักจะเป็นคนที่นั่งทำงานอยู่ตลอดเวลา ไม่ค่อยได้ลุกทำกิจกรรมอย่างอื่น นอกจากนี้การออกกำลังกายผิดท่าก็ทำให้เกิดพุงหมาน้อยได้เช่นกัน

วิธีลดพุงหมาน้อย :

กินอาหารที่มีกากใยหรือไฟเบอร์สูง ผักเขียว หรือธัญพืชต่างๆ เช่น ไข่ อะโวคาโด ถั่ว ปลา และผักให้มากขึ้น เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น

ลดการกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตลง เน้นกินอาหารที่เป็น Low Fat แทน

ควรออกกำลังกายท่าอื่นๆ บ้าง และควรออกกำลังกายเป็นเซตสลับไปในหลายๆ ท่า เพื่อให้ร่างกายส่วนอื่นได้รับการออกกำลังบ้าง

พุงแบบที่ 3

พุงเครียด | Stressed Belly

ลักษณะ : พุงแบบนี้จะมีลักษณะเป็นชั้นๆ

สาเหตุ : เกิดจากความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานไม่ปกติ และผลิตไขมันขึ้นที่บริเวณหน้าท้อง นอกจากความเครียดแล้ว พุงแบบนี้มักจะเกิดจากการกินอาหารไม่ตรงเวลา หรือกินอาหารขยะมากเกินไป รวมถึงการดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากไปอีกด้วย และพุงแบบนี้ยังเป็นสัญญาณของโรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome) หรือโรคลำไส้ที่ทำให้เกิดอาการปวดท้อง แน่นท้อง ไม่สบายท้อง ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย ท้องผูก ท้องเสียนั่นเองค่ะ

วิธีลดพุง :

ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อลดความเครียด เพราะถ้าเครียดจนนอนไม่หลับ ระบบเผาผลาญจะทำงานไม่ปกติ

ควรลดการดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 แก้ว

ควรกินอาหารให้ตรงเวลา และควรกินให้ครบทุกมื้อแต่ในปริมาณที่พอเหมาะ

ทำกิจกรรมที่ช่วยคลายเครียดจากชีวิตประจำวันได้ เช่น การปั่นจักรยาน การนวด หรือไปทำสปาต่างๆ

เปลี่ยนจากการออกกำลังกายแบบ Cardio เป็นการออกกำลังกายเบาๆ เช่น โยคะ หรือพิลาทีส เพื่อคลายเครียด

พุงแบบที่ 4

พุงคนท้อง | Mommy Belly

ลักษณะ : พุงคุณแม่หลังคลอด มดลูกยังไม่เข้าอู่ จะมีลักษณะหน้าท้องห้อยๆ พุงยื่นๆ

สาเหตุ : หลังจากคลอดแล้ว หน้าท้องของคุณแม่หลายๆ คนจะยังคงมีลักษณะเป็นชั้นแบบนี้อยู่ โดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ กว่าจะยุบหรือที่เรียกว่า มดลูกเข้าอู่ นั่นเองค่ะ ดังนั้นอย่าเพิ่งหักโหมออกกำลังกายไปก่อน ต้องรอให้ร่างกายกลับสู่สภาวะปกติดีก่อนถึงค่อยเริ่มการลดไขมันหน้าท้องได้

วิธีลดพุง :

เมื่อร่างกายเข้าที่แล้ว สามารถออกกำลังกายด้วยท่าลดพุงเบาๆ ก่อนได้

กินอาหารเสริมประเภทน้ำมันตับปลา เพื่อเพิ่มการเผาผลาญไขมันในร่างกาย

กินไขมันดี เช่น ไขมันจากถั่ว น้ำมันมะกอก

คุณแม่ควรใช้เวลานอนกลางวัน ขณะที่เบบี๋หลับ ออกกำลังกายเบาๆ ก่อนเข้านอน ให้ร่างกายผ่อนคลายมากขึ้น

พุงแบบที่ 5

พุงป่อง | Bloated Belly

ลักษณะ : มีลักษณะคล้ายพุงกลม แต่มักจะแบนในตอนเช้า และป่องในตอนกลางวัน

สาเหตุ : พุงแบบนี้มาจากการกินอาหารที่ย่อยยาก และแก๊สในกระเพาะอาหารที่มีเป็นจำนวนมาก จนเกิดท้องอืด พุงแบบนี้จะไม่ค่อยอันตรายเท่าแบบอื่นๆ เพราะสามารถแก้ไขได้ง่ายๆ เพียงแค่เปลี่ยนวิธีกินอาหาร

วิธีลดพุง :

ดื่มน้ำมากๆ และกินอาหารที่มีกากใยให้มากขึ้น เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น

เพิ่มการกินอาหารจำพวกผัก ผลไม้ ที่ดีต่อระบบขับถ่าย

หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำจากแป้งขัดสี หรืออาหารที่มีส่วนผสมของแป้ง นม เนย ชีส เนื่องจากอาหารเหล่านี้ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ยากขึ้น

เดินเล่นสักพักหลังกินอาหาร เพื่อช่วยให้กระเพาะย่อยอาหารได้ดีขึ้น

รับประทานอาหารเป็นเวลามากขึ้น กำหนดเวลาการกินให้ชัดเจน งดกินมื้อดึก และเคี้ยวอาหารให้ละเอียด

รู้จักประเภทของพุง 5 แบบกันแล้ว พุงของคุณเป็นแบบไหนกันคะ? ไม่ว่าจะเป็นพุงแบบไหนผู้หญิงอย่างเราก็ไม่อยากมีกันทั้งนั้น วิธีการลดพุงเราสามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การควบคุมอาหาร และออกกำลังกายลดหน้าท้องตามวิธีที่ได้แนะนำไปนะคะ แต่หากคุณผู้หญิงไม่อยากเหนื่อยกับการออกกำลังกายหรือเคยทำวิธีการลดพุงข้างต้นมาแล้ว แต่ผลลัพธ์ลดหน้าท้องเห็นผลช้าไม่ทันใจ

คุณหมอลูกหนู มีตัวช่วยกำจัดไขมันหน้าท้องแบบได้ผลลัพธ์ที่ดีมาแนะนำค่ะ

ลดไขมันหน้าท้องแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ

การลดไขมันบริเวณหน้าท้องเป็นการลดไขมันเฉพาะส่วน ที่ช่วยลดปริมาณไขมันหรือลดขนาดของไขมัน เพื่อให้หน้าท้องยุบลง แบนราบลง เป็นการปรับสัดส่วนให้มีรูปร่างเข้าที่ และสวยงามมากขึ้น โดยคุณหมอลูกหนูได้ออกแบบการรักษาเป็น 2 หัวข้อหลัก ๆ ดังนี้

1. ลดไขมันหน้าท้อง แบบ ดูดไขมัน

การดูดไขมันหน้าท้อง เทคนิคของคุณหมอลูกหนู

สูตรลับเฉพาะตัว การดูดไขมัน เทคนิค แผลเล็ก เจ็บน้อย ชิวเว่อร์ คุยสบาย ฟื้นตัวเร็ว

โดยขั้นแรกคุณหมอลูกหนูจะทำการวิเคราะห์สรีระ และปัญหาของแต่ละเคสแบบ 1 by 1 ออกแบบรูปร่างเฉพาะบุคคล เพื่อหน้าท้องที่แบนราบ ตึงกระชับ เรียบเนียน หลังจากที่ดูดไขมันออกไป ซึ่งการดูดไขมันเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้หน้าท้องมีขนาดเล็กลงได้ในทันที หมดปัญหาไขมันส่วนเกินไปได้เลย

เนื่องจากพุงหนา ๆ เป็นปัญหากวนใจที่ทำให้หลายๆ คนไม่มั่นใจในรูปร่างร่างของตัวเอง และใส่เสื้อผ้าไม่สบาย ดังนั้นเพื่อพิชิตพุงหนา ๆ ให้กลายเป็นหน้าท้องแบนราบ คุณหมอลูกหนูจึงมีตัวช่วยสำคัญ ที่จะกำจัดไขมันตัวร้ายให้หายไปได้ในพริบตา สำหรับใครที่อยากได้วิธีลดหน้าท้องแบบเร่งด่วน โปรแกรม ดูดไขมันหน้าท้อง โดยคุณหมอลูกหนูและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เป็นวิธีที่ช่วยได้อย่างดี

2. ลดไขมันหน้าท้อง แบบ ไม่ต้องดูดไขมัน

การลดไขมันหน้าท้อง แบบไม่ต้องดูดไขมัน เป็นวิธีการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีเปิดแผล ไม่ต้องฉีดยาชา ไม่เจ็บ และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์สามารถกำจัดไขมันได้อย่างถาวร เหมือนกับการดูดไขมัน แต่เป็นการฆ่าเซลล์ไขมันและขับออกจากร่างกายผ่านการขับถ่ายของเสียทางร่างกายตามปกติ โดยคุณหมอลูกหนูได้คัดสรรเลือกนวัตกรรมที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง เห็นผลการรักษาดี เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ได้มาตรฐานระดับสากล คนไข้จึงมั่นใจได้ในประสิทธิภาพและความปลอดภัยของโปรแกรมการรักษาที่ได้รับอย่างแน่นอน

ลดหน้าท้องด้วย โปรแกรม 4D Twenty

4D Twenty นวัตกรรมที่เป็นการผสาน 4 เทคโนโลยีที่ดีที่สุด รวมกันเป็นหนึ่งเดียว

พลังงานที่ใช้ในการกระชับผิว สลายไขมัน และลดเซลลูไลท์ คือ

พลังงานคลื่นวิทยุ (High Radio Frequency)

พลังงานแสงอินฟราเรด (Infrared)

พลังงานระบบสูญญากาศ (Vaccuum)

พลังงานระบบลูกกลิ้ง (Roller)

ไม่ต้องผ่าตัด

ไม่เจ็บ

ทำให้ประสิทธิภาพในการสลายเซลลูไลท์ดีมากขึ้น สามารถเห็นผลแตกต่างตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ใช้จำนวนครั้งที่ทำน้อยกว่า แต่ได้ผลลัพธ์ที่ยืนยาวกว่า

ยกกระชับผิว

ลดผิวเปลือกส้ม

ลดไขมันส่วนเกิน

ปรับผิวให้เรียบเนียน

กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง

ลดหน้าท้องด้วย โปรแกรม FAT TITE

FAT TITE นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีการทำงาน 3 ขั้นตอน

Vaccuum

Bi-polar RF Power

Short pulse RF Power

เป็นนวัตกรรมที่สามารถช่วยสลายไขมันแล้วยังกระชับสัดส่วน ได้ในขั้นตอนเดียวกัน จึงไม่ยุ่งยากเหมือนการดูดไขมันเหมือนสมัยก่อน

สะดวกและรวดเร็ว

มีความปลอดภัยสูง

ไม่ต้องผ่าตัดให้เสียเลือด

ช่วยกระชับสัดส่วนได้เฉพาะจุด

ไม่ต้องพักฟื้นหลังจากทำการรักษา

ช่วยทำลายเซลล์ไขมันจากพลังงานเลเซอร์กระจายทั่วชั้นไขมัน

อ่านเพิ่มเติม

คุณหมอลูกหนู ประสบการณ์ยาวนานกว่า 14 ปี ทำให้คนไข้มั่นใจได้ว่าต่อให้พุง คุณเป็นแบบไหน ใหญ่แค่ไหน เราพร้อมที่จะให้คำแนะนำและคำปรึกษา รวมทั้งมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีทุกรูปแบบที่สามารถช่วยปรับสัดส่วนและออกแบบรูปร่างได้อย่างตรงจุด อยากหุ่นดีวางใจให้ คุณหมอลูกหนู ดูแลคุณค่ะ

คุณลูกค้าที่ต้องการปรึกษาคุณหมอลูกหนู เรื่องการ ดูดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบตรงจุด และปลอดภัย สามารถส่งรูป หรือ พิมพ์ข้อความ เข้ามาปรึกษาคุณหมอลูกหนูก่อนได้เลยค่ะ คุณหมอยินดีให้คำปรึกษาและแนะนำคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ